รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ชี้ญี่ปุ่นต้องร่วมมือกับประชาคมโลกในการสกัดกั้นลัทธิก่อการร้าย และหาวิธีที่จะปกป้องพลเมืองจากอันตราย หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้เผยแพร่คลิปยืนยันการสังหารนักข่าวชาวญี่ปุ่น
กลุ่มไอเอสซึ่งยึดพื้นที่กว้างขวางในอิรักและซีเรียประกาศเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) ว่า เคนจิ โกโตะ นักข่าวสายสงครามชาวเมืองปลาดิบได้ถูกสังหารแล้ว หลังความพยายามเจรจาแลกเปลี่ยนตัวประกันไม่เป็นผล โดยก่อนหน้านี้เพียง 1 สัปดาห์ นักรบไอเอสก็ได้ฆ่าตัดหัว ฮารูนะ ยูกาวะ ตัวประกันญี่ปุ่นอีกรายหนึ่ง
อาเบะได้กล่าวประณามพฤติกรรมโหดร้ายป่าเถื่อนของกลุ่มไอเอส และยืนยันว่าญี่ปุ่นพร้อมที่จะร่วมมือกับประชาคมโลกในการต่อสู้ลัทธิก่อการร้ายอย่างเต็มกำลัง
“หากเราไม่ยอมร่วมมือกันเพราะหวาดกลัวผู้ก่อการร้าย ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามที่คนเลวทรามพวกนั้นต้องการ” ผู้นำญี่ปุ่นกล่าวต่อสื่อมวลชน
เมื่อวานนี้ (1) อาเบะยังได้ประกาศกร้าวว่าญี่ปุ่นจะสนับสนุนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อภูมิภาคตะวันออกกลางมากยิ่งขึ้น
กลุ่มไอเอสได้เผยแพร่คลิปวิดีโอยืนยันการสังหาร โกโตะ วัย 47 ปี ซึ่งถูกจับเป็นตัวประกันตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว และก่อนหน้านั้นก็ได้เปิดเผยภาพถ่ายร่างที่ไร้ศีรษะของยูกาวะ ซึ่งตกอยู่ในเงื้อมมือผู้ก่อการร้ายมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม หลังจากเดินทางไปซีเรียเพื่อร่วมพิธีเปิดบริษัทด้านความมั่นคงแห่งหนึ่ง
ความตายของพลเมืองญี่ปุ่นทั้ง 2 รายนำมาซึ่งกระแสเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อลดทอนข้อจำกัดและเปิดทางให้กองกำลังญี่ปุ่นสามารถปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือในต่างแดนได้
อาเบะ แถลงต่อคณะกรรมาธิการรัฐสภาในวันนี้ (2) ว่า เงื่อนไขของรัฐธรรมนูญทำให้ญี่ปุ่นไม่สามารถเข้าร่วมภารกิจโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอเอส และไม่อาจสนับสนุนแม้กระทั่งในด้านการขนส่ง แต่ควรมีการอภิปรายถึงความเป็นไปได้ในการส่งกองกำลังไปช่วยเหลือพลเมืองญี่ปุ่นที่ตกอยู่ในอันตราย
ปัจจุบันภารกิจลักษณะนี้ยังถูกจำกัดด้วยข้อกฎหมาย ทว่า โตเกียวมีแผนที่จะเสนอร่างแก้ไขกฎหมายเพื่อผ่อนคลายข้อจำกัดดังกล่าวต่อรัฐสภาเร็วๆ นี้
รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามอย่างยิ่งที่จะช่วยชีวิตของโกโตะ ซึ่งตกเป็นตัวประกันรายที่ 2 ของกลุ่มไอเอส หลังจากที่เขาเดินทางไปซีเรียเพื่อหาทางช่วยชีวิต ฮารูนะ ยูกาวะ ที่ถูกจับไปก่อนหน้า
รินโกะ ภรรยาของนักข่าวผู้นี้ระบุว่า เธอและครอบครัวหัวใจสลายเมื่อรู้ข่าวการตายของสามี
“ฉันยังภาคภูมิใจในตัวสามีเสมอ เขาปฏิบัติหน้าที่ของสื่อในการรายงานความทุกข์ยากของประชาชนในพื้นที่ขัดแย้ง เช่น อิรัก โซมาเลีย และซีเรีย” รินโกะ ระบุในคำแถลงซึ่งถูกโพสต์ลงบนเว็บไซต์กองทุน โรรี เพ็ค องค์กรสนับสนุนผู้สื่อข่าวอิสระซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงลอนดอน
“เขามีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ทั่วโลกได้เห็นว่า ความขัดแย้งส่งผลกระทบต่อชีวิตพลเมืองทั่วไปอย่างไร โดยเฉพาะในสายตาของเด็กๆ และทำให้พวกเราที่เหลืออยู่ได้ตระหนักถึงความเลวร้ายของสงคราม”