ยูเอ็นแนะไนจีเรียจับมือเพื่อนบ้าน ผนึกกำลังปราบ “โบโกฮารัม”

เอเอฟพี - ทูตพิเศษแห่งสหประชาชาติประจำภูมิภาคซาเฮล ระบุในวันนี้ (28 ม.ค.) ว่าไนจีเรียควรจะต้องยอมรับว่าไม่อาจเอาชนะกลุ่มติดอาวุธ “โบโกฮารัม” ได้โดยลำพัง แล้วร่วมมือกับกองทัพของชาติต่างๆ ในละแวกใกล้เคียง เพื่อสร้างกองกำลังระดับภูมิภาคขึ้นมา

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของไนจีเรียเคยปฏิเสธความช่วยเหลือจากกองกำลังของสหประชาชาติหรือสหภาพแอฟริกัน ในการสู้รบกับกลุ่มโบโกฮารัม โดยระบุว่า ลำพังแค่ไนจีเรียกับพันธมิตรก็เพียงพอต่อการรับมือ

“ไนจีเรียจะรับมือกับปัญหานี้โดยลำพังไม่ได้ โบโกฮารัมไม่ใช่ปัญหาของไนจีเรียชาติเดียว เราได้เห็นผู้คนมากมายที่ต้องลี้ภัยเข้าไปไนเจอร์ แคเมอรูน หรือแม้กระทั่งชาด ภูมิภาคซาเฮลได้รับผลกระทบมากขึ้นเรื่อยๆ” ฮิรูเต กูเบอร์ เซลลาสซีย์ ทูตยูเอ็นบอกกับเอเอฟพีที่เมืองหลวงของเอธิโอเปีย

ไนจีเรียมีกองทัพใหญ่ที่สุดในแอฟริกาตะวันตก แต่ก็ยังถูกวิจารณ์อย่างหนักทั้งจากในประเทศและจากต่างชาติ ที่ไม่สามารถหยุดยั้งความอหังการของกลุ่มโบโกฮารัมเอาไว้ได้

ทั้งนี้ สหภาพแอฟริกัน (เอยู) คาดว่าจะมีการหารือเกี่ยวกับเรื่องกองกำลังประจำภูมิภาค ที่มีจำนวนทหารราว 3,000 นาย ที่มาจากไนจีเรีย ไนเจอร์ เบนิน ชาด และแคเมอรูน

“ถึงเวลาที่ทั้งทวีปแอฟริกาจะต้องดำเนินการและตระหนักถึงอันตรายของกลุ่มโบโกฮารัม” ทูตยูเอ็นระบุ

เอ็นโกซาซานา ดลามินี-ซูมา ผู้นำเอยู ได้ออกมาแสดงความเห็นไว้เมื่อวันจันทร์ (26 ม.ค.) ว่าเธอรู้สึกหวั่นเกรงกับความเข้มแข็งที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มโบโกฮารัม พร้อมทั้งเตือนบรรดาชาติสมาชิกว่านี่ไม่ใช่ภัยคุกคามสำหรับบางประเทศเท่านั้น แต่เป็นภัยต่อแอฟริกาทั้งทวีป

ดลามินี-ซูมา ระบุว่า จะติดต่อกับบรรดาผู้นำของเอยู เพื่อปรับนโยบายให้สามารถรับมือกับกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ ชาดได้ส่งทหารและยานพาหนะ 400 คันเข้าไปในแคเมอรูนเพื่อทำการสู้รบกับกลุ่มโบโกฮารัม

นับตั้งแต่ปี 2009 กลุ่มติดอาวุธโบโกฮารัมได้สังหารชีวิตผู้คนไปกว่า 13,000 ราย กับอีกนับล้านที่ต้องพลัดพรากจากถิ่นฐานบ้านเกิด