เอเอฟพี - เลขาธิการสหประชาชาติ “บัน คี-มูน” ประณามการใช้จรวดโจมตีเมืองมาริอูโปลในยูเครน ที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ (24 ม.ค.) รวมถึงประณามการประกาศไม่ร่วมการเจรจาสันติภาพของกบฏแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซีย
การแสดงความเห็นของบัน เกิดขึ้นหลังจากที่พวกกบฏยูเครนประกาศเปิดฉากบุกโจมตีและยิงจรวดเข้าใส่เมืองมาริอูโปล จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 30 ราย และได้รับบาดเจ็บประมาณ 100 ราย
“บันได้ประณามอย่างรุนแรงสำหรับเหตุการณ์ใช้จรวดโจมตีเมืองมาริอูโปล ซึ่งมีจรวดหลายลูกที่ถูกยิงเข้าใส่ย่านที่อยู่อาศัยของพลเรือน ซึ่งอาจเป็นการละเมิดกฏหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ” โฆษกของบันระบุในคำแถลง
นอกจากนี้ บันยังได้ประณามผู้นำฝ่ายกบฏ เรื่องปฏิเสธจะเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพใดๆ ทั้งยังมีการบอกว่าจะบุกยึดครองดินแดนเพิ่ม โดยผู้นำยูเอ็นย้ำว่าสันติภาพในยูเครน รวมถึงเสถียรภาพและความมั่นคงในพื้นที่จะต้องได้รับการฟื้นฟูโดยเร็ว
ทั้งนี้ อเล็กซานเดอร์ ซาคาร์เชนโก ผู้นำของกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดน ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ว่ากองกำลังของเขาคือผู้ที่เปิดฉากโจมตีเข้าใส่เมืองมาริอูโปล
ขณะเดียวกัน มีการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่การทูตของชาติตะวันตก ว่าคำแถลงประณามการโจมตีเมืองมาริอูโปล ของสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ทางอังกฤษเรียกร้องให้มีขึ้นนั้น ถูกขัดขวางโดยรัสเซีย
มาร์ค ไลอัล แกรนต์ เอกอัคราชทูตอังกฤษประจำสหประชาชาติ ได้ทวิตข้อความว่า สภาความมั่นคงยูเอ็นจะออกคำแถลงประณามการโจมตีเมืองมาริอูโปล แบบเดียวกับของบัน คี-มุน แต่ถูกรัสเซียขัดขวางเอาไว้
ด้านเอกอัครราชทูตลิธัวเนีย ไรมอนดา เมอร์โมไคตี ก็ได้ทวิตข้อความลักษณะเดียวกันว่า ผู้นำกบฏยูเครนยอมรับว่าเป็นผู้โจมตีเมืองมาริอูโปล แต่ถึงกระนั้นรัสเซียก็ยังพยายามปกป้องพวกเขา ทำให้ไม่มีการออกคำแถลงประณามจากสภาความมั่นคงฯ
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มมีวิกฤติการสู้รบในยูเครนตะวันออก มีการประชุมพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กว่า 20 ครั้ง แต่ก็ไม่เคยที่จะได้บรรลุความเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ เนื่องจากรัสเซีย ประเทศที่ปฏิเสธมาตลอดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกกบฏ คือชาติสมาชิกถาวรของสภาความมั่นคงฯ ที่มีอำนาจในการยับยั้งมติที่ประชุม