เอเจนซีส์ - การมีฟันที่แข็งแรงและสวยงามถือเป็นสิ่งที่ทุกคนควรมี และเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความมั่งมีในชาติตะวันตกที่มีค่ารักษาทันตกรรมแพงหูฉี่ แต่กระนั้น นิกกี สแตนลี (Nicki Stanley) ชาวอังกฤษวัย 46 ปี ต้องพบกับฝันร้ายเมื่อพบว่าการเดินทางไปเพื่อครอบฟันของเธอ กลับพบว่าเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทันตแพทย์ได้ถอนฟันด้านบนของเธอออกจนหมด
เดอะ มิเรอร์ สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้ (24 ม.ค.) ว่า คนไข้หญิงชาวอังกฤษวัย 46 ปี นิกกี สแตนลี (Nicki Stanley) ถูกทันตแพทย์ที่ทำการรักษาถอนฟันด้านบนหมดทุกซี่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเธอที่ถูกรมแก๊สเพื่อให้นอนหลับตามกระบวนการรักษาทั่วไปในอังกฤษ
ทั้งนี้ สแตนลีมีสุขภาพฟันที่ไม่สู้ดีมาหลายปี และเธอคาดหวังว่าจะได้รับการรักษาโดยการครอบฟัน แต่เมื่อเธอตื่นขึ้นมาบนเก้าอี้คนไข้ แทนที่เธอจะพบว่าฟันที่ผุของเธอถูกครอบด้วยวัสดุเทียมทางทันตกรรม แต่กลับกลายว่าฟันทุกซี่ที่อยู่ด้านบนนั้นถูกถอนไปหมด
คุณแม่ลูกหนึ่งชาวอังกฤษเผยต่อว่า “ดิฉันพยายามทำทุกวิธีที่จะรักษาสุขภาพทางช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาสีฟันชนิดพิเศษผสมฟูลออไรด์ และรวมไปถึงการไปพบกับทันตแพทย์บ่อยเท่าที่ต้องการแต่ไม่ได้ผล ดิฉันมีฟันด้านบนเพียงแค่ 6 ซี่แต่นั่นก็เพียงพอสำหรับการครอบฟัน และไม่ต้องการสวมฟันปลอม ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นฝันร้ายสุดๆ” และสแตนลีเสริมว่า “เมื่อดิฉันตื่นมาจากการถูกทำให้สลบ ความรู้สึกยังไม่กลับคืนมาเท่าใด ทำให้เป็นการยากจะทราบว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับตัวเองในช่วงเวลาก่อนหน้านั้น ซึ่งกว่าจะทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเดินทางกลับบ้าน และนอนพักผ่อนราว 3-4 ชม.ไปแล้ว”
และคนไข้หญิงอังกฤษเปิดเผยความรู้สึกต่อว่า “และหลังจากนั้นฝันร้ายก็เริ่มต้นอย่างไม่สามารถจินตนาการได้ เมื่อรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติในปาก และถึงแม้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ดิฉันเดินทางกลับไปที่คลินิกเพื่อขอความช่วยเหลือจากการที่รู้สึกไม่สบายในการสวมฟันปลอมเพื่อใช้ในการบดเคี้ยว แต่ก็ช่วยอะไรได้ไม่มากนัก เพราะทางคลีนิกไม่สามารถทำให้ฟันปลอมยังคงติดอยู่ภายในช่องปาก”
สแตนลี อาชีพครูผู้ช่วยเหลือฟันตามธรรมชาติเพียงแค่ 5 ซี่เท่านั้น และหมดความมั่นใจในตัวเองในที่สุด โดยเธอกล่าวว่า “เป็นเวลาถึง 5 ปีที่ดิฉันแทบไม่ออกจากบ้าน และแทบไม่ได้ถ่ายภาพตัวเองแต่อย่างใด” แต่หลังจากที่เธอได้รับการรักษาทันตกรรมเปลี่ยนชีวิตเวลาร่วม 8 ชม. ที่มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 30,000 ปอนด์ ได้ให้ชีวิตใหม่แก่เธอ และทำให้สแตนลีกลับมามีความสุขอีกครั้งด้วยการออกไปเที่ยวทุกสุดสัปดาห์พร้อมรอยยิ้ม
ด้านทันตแพทย์ แอนโธนี ไซบัตซ์ (Dr Anthony Zybutz) ที่ทำการรักษารากฟันเทียมให้กับคนไข้มาไม่ต่ำกว่า 80 รายต่อปี ให้ความเห็นว่า “นิกกีถูกถอนฟันไปเกือบหมด และเหลือฟันตามธรรมชาติไม่กี่ซี่ ดังนั้นเธอจึงได้รับการรักษารากฟันเทียมทั้งช่องปาก ซึ่งเป็นเรื่องที่หายากจะพบว่าคนไข้อายุน้อยที่ถูกถอนฟันไปเกือบหมด ส่วนใหญ่จะพบในรายคนไข้อายุ 70-80 ปี ที่ถูกพบว่าฟันถูกถอนไป ซึ่งในการรักษานิกกีไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คลินิกของเราเป็นคลินิกเฉพาะทาง และเป็นสิ่งวิเศษที่เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่น่าเชื่อก่อนและหลังการเข้ารับรักษา ซึ่งความมั่นใจในตัวเองและความสุขของนิกกีหลังการมีฟันที่ครบสมบูรณ์พร้อมกับรอยยิ้มของเธอเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกยินดีที่ได้เห็น”