เอเอฟพี - การระบาดของโรคหัดซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่รอบๆ สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ลุกลามสู่อีก 6 รัฐ รวมถึงเม็กซิโก โดยคาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะเป็นตัวการแพร่เชื้อ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แถลงเมื่อวานนี้ (23 ม.ค.)
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) แถลงว่า ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมทางศูนย์ได้รับแจ้งผู้ป่วยโรคหัดที่ได้ยืนยันแล้ว 51 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวแคลิฟอร์เนีย แต่ก็พบผู้ป่วยในรัฐที่ห่างไกลออกไปอย่างวอชิงตัน และเนแบรสกาด้วย
ซีดีซีเปิดเผยว่า ผู้ที่ล้มป่วยมีอายุตั้งแต่ 10 เดือนไปจนถึง 57 ปี และมีอยู่ไม่กี่รายที่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด เนื่องจากไม่กี่ปีมานี้เริ่มมีกระแสต่อต้านการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะในภูมิภาคอเมริกาเหนือ
กลุ่มพลเมืองที่ต่อต้านวัคซีน MMR (วัคซีนป้องกันโรคหัด, คางทูม และหัดเยอรมัน) เชื่อว่า วัคซีนชนิดนี้อาจทำให้เด็กป่วยเป็นออทิสติก แม้ผลวิจัยจากหลายสำนักจะยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกันก็ตาม
โรคหัดถูกประกาศให้หมดสิ้นไปจากสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2000 แม้ว่าจะยังพบผู้ป่วยในบางภูมิภาคของยุโรป, แอฟริกา และเอเชีย
“นอกจากผู้ป่วยในสหรัฐฯ แล้ว ยังมีรายงานว่าเด็กชาวเม็กซิโกคนหนึ่งที่ไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัดเกิดอาการป่วย หลังจากมาเที่ยวดิสนีย์แลนด์เมื่อวันที่ 17 และ 20 ธันวาคม ปี 2014” ซีดีซีแถลง
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังไม่สามารถระบุที่มาของเชื้อได้ “แต่มีความเป็นได้ว่า นักท่องเที่ยวสักรายหนึ่ง (หรืออาจจะมากกว่าหนึ่ง) ที่ติดโรคหัดมาจากต่างประเทศ ได้มาเที่ยวดิสนีย์แลนด์ในช่วงที่เป็นระยะแพร่เชื้อ” ซีดีซีระบุ
ผู้ป่วย 42 รายจากทั้งหมด 51 รายอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ยังพบผู้ติดเชื้อในรัฐยูทาห์อีก 3 ราย, รัฐวอชิงตัน 2 ราย และที่รัฐออริกอน, โคโลราโด, เนแบรสกา และแอริโซนา อีกแห่งละ 1 ราย
โรคหัดเป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่ายผ่านทางลมหายใจ แม้จะไม่ได้สัมผัสร่างกายผู้ติดเชื้อก็ตาม โดยผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ไอ น้ำมูกไหล ตาแดง และเกิดผื่นทั่วตัว กรณีรุนแรงอาจถึงขั้นตาบอด สูญเสียการได้ยิน ปอดบวม และเสียชีวิตในที่สุด
อัตราการเสียชีวิตของเด็กที่ติดเชื้อโรคหัดอยู่ที่ราว 1-2 คนต่อ 1,000 คน ตามข้อมูลจากซีดีซี
การประกาศขจัดโรคหมายความว่า โรคหัดไม่ใช่โรคพื้นถิ่นของสหรัฐฯ อีกต่อไป แต่เมื่อปีที่แล้วก็พบผู้ป่วยรวมทั้งสิ้น 644 ราย ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจากสถิติ 173 รายในปี 2013
หนังสือพิมพ์ลอสแองเจลิส ไทม์ส เผยผลการวิเคราะห์เมื่อปีที่แล้วว่า 9.5% ของเด็กอนุบาลในเขตการศึกษาหนึ่งของเทศมณฑลออเรนจ์ไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัด เนื่องจากความเชื่อผิดๆ ของพ่อแม่