เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ข้อมูลล่าสุดจากหน่วยงานในสังกัดของสหประชาชาติชี้การโจมตีและเหตุรุนแรงที่ก่อขึ้นโดยกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ “โบโกฮารัม” กลายเป็นต้นตอสำคัญที่ทำให้ประชาชนจำนวน “มากกว่า 1 ล้านคน” ต้องอพยพหนีตายออกจากบ้านเรือนของตนในพื้นที่ภาคเหนือของไนจีเรียตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
ข้อมูลจากองค์การระหว่างประเทศเพื่อผู้อพยพพลัดถิ่น (ไอโอเอ็ม) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่มีการเผยแพร่ในวันพุธ (21 ม.ค.) ระบุว่า ความรุนแรงที่ก่อโดยกลุ่มหัวรุนแรงดังกล่าว นอกเหนือจากจะทำให้เกิดคลื่นผู้อพยพภายในไนจีเรีย ยังทำให้เกิดการไหลบ่าของผู้อพยพจำนวนมากออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่รายรอบ ไม่ว่าจะเป็นแคเมอรูน ไนเจอร์ และชาด และกำลังกลายเป็นปัญหาสำคัญที่บ่อนทำลายเสถียรภาพของภูมิภาค
ด้านโมฮัมเหม็ด อับดิเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินของไอโอเอ็มกล่าวว่า ปัญหาที่เกิดจากภัยคุกคามของกลุ่มติดอาวุธโบโกฮารัมมิได้เป็นเพียงปัญหาภายในของไนจีเรียเพียงประเทศเดียวอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นปัญหาด้านความมั่นคงของทั้งแอฟริกาตะวันตกไปแล้ว
ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้แทนจากหลายประเทศในแอฟริกาตะวันตก ตบเท้าเข้าร่วมการประชุมสุดยอดในระดับภูมิภาคที่ประเทศไนเจอร์ ในวันอังคาร (20 ม.ค.) เพื่อหารือถึงแนวทางในการยับยั้งภัยคุกคาม จากกลุ่มนักรบอิสลามิสต์ “โบโกฮารัม” ที่เคลื่อนไหวก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่องทั้งในไนจีเรียและแคเมอรูน
โมฮาเหม็ด บาซูม รัฐมนตรีต่างประเทศของไนเจอร์ ในฐานะเจ้าภาพของการประชุมในครั้งนี้ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวที่กรุงนิอาเมย์ เมืองหลวงของประเทศ โดยระบุว่า การแผ่ขยายอิทธิพลของกลุ่มโบโกฮารัมในช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้กลายเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อภูมิภาค และสะท้อนให้เห็นว่าที่ผ่านมารัฐบาลของประเทศต่างๆในแถบนี้ ดำเนินมาตรการตอบโต้ภัยคุกคามนี้ได้อย่างล่าช้าและไร้ประสิทธิภาพ จนมีแนวโน้มที่ความรุนแรงที่ก่อโดยกลุ่มหัวรุนแรงนี้จะไหลล้นออกจากไนจีเรียไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ
รายงานข่าวระบุว่า รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับงานด้านความมั่นคงและกิจการต่างประเทศ ทั้งจากไนจีเรีย ไนเจอร์ แคเมอรูน ชาด เบนิน กานา และอิเควทอเรียลกินี รวมถึงผู้แทนจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา จีนและสหภาพยุโรปต่างเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียง เพื่อหาแนวทางที่เป็นเอกภาพในการรับมือกับกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ดังกล่าว
ทั้งนี้ เหตุรุนแรงที่ก่อโดยกลุ่มโบโกฮารัมซึ่งเริ่มปะทุขึ้นเมื่อปี 2009 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งในไนจีเรียและแคเมอรูนไปแล้วมากกว่า 13,000 คน ขณะที่ประชาชนอีกนับล้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือของไนจีเรียต้องอพยพหนีตายออกจากบ้านเรือนของตน