เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีอาห์เมต ดาวูโตกลู แห่งตุรกีวันนี้ (15 ม.ค.) ได้เปรียบนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลว่าไม่ต่างจากการกลุ่มก่อการร้ายอิสลามิสต์ที่สังหารหมู่เหยื่อ 17 คน ในกรุงปารีส เนื่องจากต่างก็ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติเช่นเดียวกัน
ระหว่างการแสดงทัศนะออกอากาศทางโทรทัศน์ ดาวูโตกลูชี้ว่า “เนทันยาฮู ได้ก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ เหมือนพวกก่อการร้ายที่สังหารหมู่ในกรุงปารีส”
ถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีตุรกีเสี่ยงที่จะสร้างความร้าวฉานให้แก่สายสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศอีกครั้ง ภายหลังที่เมื่อเร็วๆ นี้ประธานาธิบดี เรเซป ตอยยิป เออร์โดแกน แห่งตุรกี ออกมาค่อนแคะ เนทันยาฮูว่า “ช่างกล้า” ที่เข้าร่วมการเดินขบวนแสดงพลังต่อต้านการก่อการร้ายในกรุงปารีสเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (11) หลังเกิดเหตุสองพี่น้องนักรบญิฮาด ควงปืนอาก้าถล่มยิงสำนักงานนิตยสารแนวเสียดสีประชดประชัน “ชาร์ลี เอ็บโด”
วานนี้ (13) เนทันยาฮู สวนกลับเออร์โดแกนว่า “ถ้อยแถลงที่น่าอายเช่นนี้จะต้องถูกประชาคมนานาชาติปฏิเสธ”
ดาวูโตกลู ตราหน้านายกฯ เนทันยาฮู ว่า “ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” เป็นต้นว่า เหตุการณ์เมื่อปี 2010 ที่อิสราเอลโจมตีเรือขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ของตุรกีจนมีผู้เสียชีวิต 9 ราย ตลอดจนการส่งฝูงบินรบไปถล่มฉนวนกาซา อันเป็นเขตอิทธิพลของขบวนการอิสลามิสต์ฮามาส เมื่อปีที่แล้ว
เมื่อปี 2010 หน่วยคอมมานโดอิสราเอลได้บุกโจมตีเรือ “มาวี มาร์มารา” ชักธงตุรกี ซึ่งเป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดในกองเรือขนเสบียง ระหว่างมุ่งหน้าไปให้ความช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในฉนวนกาซา ซึ่งถูกอิสราเอลปิดล้อม
เหตุการณ์ครั้งนั้นได้ทำให้มีชาวตุรกีเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 9 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บรายหนึ่งเพิ่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในปีนี้ หลังจากโคมาอยู่นาน 4 ปี ในขณะเดียวกัน ชาวปาเลสไตน์เกือบ 2,200 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ก็ถูกเข่นฆ่าในช่วงที่กองทัพอิสราเอลดำเนินปฏิบัติการทางอากาศโจมตีกวาดล้างขบวนการติดอาวุธ “ฮามาส” ในฉนวนกาซา เมื่อปีที่แล้ว
ดาวูโตกลู กล่าวว่า เนทันยาฮูเป็น “หัวหน้ารัฐบาลซึ่งกล้าสังหารหมู่เด็กไร้เดียงสา ที่นั่งเล่นบนชายหาดในฉนวนกาซา และถล่มปูพรมบ้านเรือนหลายพันหลัง”
เขากล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ของรัฐบาลอิสราเอล “หาโอกาสสังหารชาวปาเลสไตน์ได้แนบเนียนทุกครั้ง” ทั้งยัง “ยังสังหารหมู่พลเรือนของเรา ด้วยการเปิดฉากโจมตีเรือบรรเทาทุกข์ลำหนึ่งในน่านน้ำสากล”
ทั้งนี้ สายสัมพันธ์ระหว่างตุรกีกับอิสราเอล ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นหุ้นส่วนสำคัญได้ถลำสู่จุดตกต่ำอย่างสม่ำเสมอในสมัยของรัฐบาลเออร์โดแกน
เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ประธานาธิบดีตุรกีได้ประณามอิสราเอลว่า “ป่าเถื่อนยิ่งกว่าฮิตเลอร์”