เอเอฟพี - ชาวประมงชาวปาปัวนิวกินี 2 คน ที่เอาชีวิตรอดมาได้หลังลอยเคว้งคว้างอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิกนานกว่า 3 เดือน กำลังจะได้เดินทางกลับบ้านในสัปดาห์นี้ หลังจากสุขภาพของพวกเขากลับมาแข็งแรงดีอีกครั้ง องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ระบุ
ชายผู้โชคดีทั้งสองคือ ไมเคิล โบลอง วัย 54 ปี และแอมโบรส วาวุต วัย 28 ปี ถูกพาไปขึ้นฝั่งไมโครนีเซียเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ภายหลังเมื่อกลางเดือนสิงหาคมปีที่แล้วคนทั้งคู่ได้แล่นเรือออกหาปลาจากเกาะตังกาอันห่างไกลของปาปัวนิวกินี ซึ่งอยู่ห่างจากไมโครนีเซียไปทางใต้ราว 1,600 กิโลเมตร
IOM ระบุว่า สำหรับชายคนที่ 3 คือ ฟรานซิส ดิมันโซล พ่อตาของวาวุต เสียชีวิตระหว่างการเดินทางครั้งมหากาพย์ ก่อนที่เพื่อนนักเดินทางทั้งสองจะได้รับการช่วยชีวิตได้ 3 สัปดาห์
พวกเขาขึ้นมาจากเรือที่น้ำมันหมด จากนั้นพวกเขาก็ถูกส่งตัวไปสังเกตอาการที่โรงพยาบาลเป็นระยะเวลาสั้นๆ
ตั้งแต่นั้นมา พวกเขาก็เข้าไปอาศัยอยู่ที่กรุงปาลีกีร์ บนเกาะโปนเป ของไมโครนีเซีย ขณะที่ทางการได้ทำเรื่องส่งตัวทั้งสองกลับประเทศแล้ว
องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน ที่มีสำนักงานใหญ่ในนครเจนีวากล่าวว่า ได้จัดหาตั๋วเครื่องบินเพื่อให้ทั้งสองเดินทางกลับบ้าน ด้วยเงินจากกองทุนที่ตั้งขึ้นมาช่วยเหลือผู้อพยพที่พลัดติดเกาะในสถานการณ์ฉุกเฉิน
IOM ระบุว่า ในช่วงแรกที่ต้องลอยเท้งเต้ง ขณะเรือของพวกตนน้ำมันหมดอยู่กลางทะเล พวกเขากินข้าวและแป้งประทังชีวิต แต่เสบียงของพวกเขาก็มีปริมาณพอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้เพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น จากนั้นพวกเขาจึงต้องหาอาหารกินเอง ด้วยการดัดแปลงหูหม้อและตะปูเป็นหอกแบบง่ายๆ ไว้ใช้จับปลา
มีครั้งหนึ่งที่ พวกเขาต้องปลุกปล้ำกับฉลามความยาว 1.8 เมตร บนดาดฟ้าเรือ ขณะที่โดยปกติแล้วพวกเขาจะประทังชีวิตด้วยปลา เต่า และบางครั้งบางคราวก็มีลูกมะพร้าวลอยมาตามน้ำ
IOM ระบุในคำแถลงว่า “บางครั้งพวกเขาก็ไม่มีอะไรตกถึงท้องนาน 3 วัน พวกเขาเคยเกือบจะขอความช่วยเหลือจากเรือประมงที่แล่นผ่านมาได้สำเร็จ แต่ก็พลาดไปถึงสองครั้ง”
เรื่องราวอันน่าทึ่งของผู้รอดชีวิตจากท้องทะเลนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดในมหาสมุทรแปซิฟิก ผืนน้ำที่กะลาสีเรืออาจหลงทางได้อย่างง่ายดาย ขณะเดินทางไปมาระหว่างเกาะเล็กๆ ที่เป็นดินแดนแห่งเดียวในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล
เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว โฮเซ ซัลบาดอร์ อัลบาเรนกา ชาวประมงชาวซัลวาดอร์ได้กลายเป็นพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ไปทั่วโลก เมื่อเขาเล่าว่า เรือลำเล็กๆ ที่ไม่มีหลังคาคุ้มแดดคุ้มฝนของตนลอยเคว้งคว้างในมหาสมุทรนานถึง 13 เดือน โดยเขาเริ่มต้นล่องเรือออกจากเม็กซิโกข้ามแปซิฟิก ก่อนจะพบว่าตนเองไปติดอยู่บนหมู่เกาะมาร์แชล
อัลบาเรนกากล่าวว่า เขารอดชีวิตมาได้ด้วยการกินปลา และเนื้อนกดิบๆ ขณะที่ดับกระหายด้วยการดื่มน้ำฝน เลือดเต่า และปัสสาวะของตนเอง ขณะที่เพื่อนร่วมทางวัย 24 ปีของตนด่วนเสียชีวิตไป เพราะเขาไม่สามารถรับประทานอาหารแปลกๆ เหล่านี้ได้
ในช่วงแรก เรื่องราวการเดินทางของเขาได้กลายเป็นที่กังขาของคนไม่น้อย ทว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่กล่าวว่า รายละเอียดเหล่าดังกล่าวได้ผ่านการตรวจพิสูจน์แล้วว่าเป็นเรื่องจริง และเขาก็สามารถผ่านเครื่องจับเท็จขณะบอกเล่าประสบการณ์มาได้
