ตร.ฝรั่งเศสล่าตัว “บูเมดดีน” เมียมือปืนบุกจับตัวประกันในซูเปอร์มาร์เก็ตปารีส หมายสาวปมก่อการร้าย

เอเอฟพี - ขณะนี้ภาพของหญิงสาวถือหน้าไม้ และสวมนิกอบดำยาวหัวจดเท้าเห็นแต่ลูกตา กำลังถูกแจกจ่ายไปทั่วแดนน้ำหอม เธอจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ฮายัต บูเมดดีน หญิงที่ทางการฝรั่งเศสกำลังต้องการตัวมากที่สุดในเวลานี้

หญิงวัย 26 ปีผู้นี้คือคู่ครองของ อาเมดี คูลิบาลี 1 ในมือปืน 3 คนที่ถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรม ภายหลังเกิดเหตุรุนแรงสะเทือนขวัญติดต่อกัน 3 วันที่ฝรั่งเศส

รูปถ่ายของหญิงคนนี้ซึ่งหนังสือพิมพ์ “เลอมงด์” นำออกเผยแพร่เป็นเจ้าแรกนั้นดูขัดกับภาพถ่ายที่ตำรวจฝรั่งเศสนำออกเผยแพร่เพื่อให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาตามหาตัวเธอ หลังเกิดเหตุนองเลือดเมื่อวันศุกร์ (9) เมื่อคูลิบาลีถูกตำรวจหน่วยเฉพาะกิจสังหาร ขณะบุกจับตัวประกันในซูเปอร์มาร์เก็ตของชาวยิวในกรุงปารีส

รูปถ่ายหน้าตรงที่ตำรวจแดนน้ำหอมนำออกเผยแพร่เผยเป็นภาพหญิงตาปรือ ผมน้ำตาลคนหนึ่ง ซึ่งเมื่อปี 2010 เคยถูกเรียกไปสอบปากคำเพื่อซักข้อมูลของคูลิบาลี ชายผู้ก่อเหตุยิงตำรวจหญิงเสียชีวิตทางใต้ของกรุงปารีส เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (9)

แม้ว่าในตอนนี้ตำรวจชี้ว่า ขณะเกิดเหตุเธอน่าจะอยู่ในตุรกี แต่พนักงานสืบสวนก็ยังมองว่าเธอเป็นเบาะแสชิ้นสำคัญ ที่จะช่วยให้พวกเขาปะติดปะต่อเรื่องราวการก่อเหตุโจมตี โดยกลุ่มนักรบญิฮาดหัวรุนแรงที่ฝรั่งเศส ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นฝีมือของคูลิบาลี รวมทั้งเชอริฟ และซาอิด หรือสองพี่น้องตระกูลคูอาชี ซึ่งบุกถล่มยิงสำนักงานนิตยสารรายสัปดาห์แนวเสียดสีประชดประชัน “ชาร์ลี เอ็บโด” เมื่อวันพุธ (7) จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย

ในการสนทนากับสถานีโทรทัศน์ BFMTV ของฝรั่งเศสผ่านทางโทรศัพท์ คูลิบาลีวัย 32 ปี ได้อ้างว่าตนเป็นสมาชิกกลุ่มนักรบญิฮาดหัวรุนแรง “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ระหว่างกำลังปิดล้อมจับตัวประกันในกรุงปารีส

นอกจากนี้ คูลิบาลี ยังระบุด้วยว่า เขาได้ประสานงานกับเชอริฟ และซาอิด คูอาชี สองพี่น้องมือสังหาร 12 ศพ ซึ่งเคยบอกกับสถานีโทรทัศน์ BFMTV ว่า พวกเขาเป็นสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรง อัลกออิดะห์ในคาบสมุทรอาหรับ ซึ่งมีแหล่งกบดานในเยเมน

*** สมรสเมื่อปี 2009 ***

ว่ากันว่า เชอริฟ คูอาชี ชายชาวฝรั่งเศสเชื้อสายแอลจีเรียวัย 32 ปีเป็นผู้ผลักดันให้คูลิบาลี พลเมืองฝรั่งเศสเชื้อสายมาลี เข้าร่วมกับกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง ขณะที่คนทั้งคู่ติดคุกอยู่ด้วยกัน

ฟรองซัวส์ โมแลงส์ หัวหน้าอัยการกรุงปารีสระบุว่า บูเมดดีน คนรักของคูลิบาลี และอิซซานา ฮามิด ภรรยาของเชอริฟ คูอาชี ได้ติดต่อสื่อสารกันอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง โดยในปี 2014 เพียงปีเดียว หญิงทั้งสองโทรศัพท์ติดต่อกัน “มากกว่า 500 สาย” อย่างไรตาม ฮามิดซึ่งถูกควบคุมตัวเมื่อวันพุธ (7) ได้รับการปล่อยตัวแล้ววานนี้ (10)

ตอนนี้ พนักงานสืบสวนกำลังตรวจสอบบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ และการลอบดักฟัง ตลอดจนข้าวของต่างๆ ที่ยึดมาได้ระหว่างเข้าตรวจค้น เพื่อดูว่า การก่อเหตุครั้งนั้นเป็นการสมคบคิดกันของฝ่ายใดบ้าง และมีใครอื่นเกี่ยวข้องกับมือปืนกลุ่มนี้อีกหรือไม่

อย่างไรก็ดี เป้าหมายหลักในเวลานี้คือ บูเมดดีน ซึ่งแหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงของตุรกีชี้ว่า เธอเดินทางเข้าตุรกีเมื่อวันที่ 2 มกราคม และเชื่อว่า บัดนี้น่าจะไปถึงซีเรียแล้ว

เมื่อปี 2009 เธอเข้าพิธีสมรสทางศาสนากับคูลิบาลี แม้ว่าฝรั่งเศสไม่ถือว่าการแต่งงานในลักษณะนี้เป็นการสมรสทางนิตินัย หากปราศจากการจดทะเบียนสมรสก็ตาม หลังจากนั้น ทั้งคู่ได้ย้ายไปอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างสมถะที่อพาร์ตเมนตแห่งหนึ่ง ในย่านคนจนชานกรุงปารีส

ภายหลังพ้นโทษจำคุกครั้งล่าสุด คูลิบาลีได้ย้ายกลับไปอยู่กับเธออีกครั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม

หนังสือพิมพ์ “เลอ ปารีเซียง” รายงานว่า เธอเคยเป็นพนักงานแคชเชียร์ แต่ต้องตกงานหลังจากยืนกรานที่จะสวมผ้าคลุมศีรษะของอิสลามแบบยาวตั้งแต่หัวจรดเท้า ที่เรียกกันว่า “นิกอบ”

คูลิบาลีเคยพา บูเมดดีน ไปยิงหน้าไม้ในป่าแห่งหนึ่ง ทางใต้ของภาคกลางของฝรั่งเศสอยู่หลายครั้ง ขณะที่เลอมงด์ตีพิมพ์ภาพของคนทั้งคู่ถือหน้าไม้ โดยบูเมดดีนกำลังสวมนิกอบสีดำ