xs
xsm
sm
md
lg

โสมขาวสั่ง “เนรเทศ” หญิงลูกครึ่งอเมริกัน-เกาหลี ฐานแสดงทัศนะ “ยกยอ” โสมแดง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอพี - วานนี้ (10 ม.ค.) ทางการเกาหลีใต้ได้เนรเทศหญิงสาวชาวเชื้อสายเกาหลี-อเมริกันคนหนึ่ง ภายหลังเธอถูกกล่าวหาว่ายกย่องเชิดชูเกาหลีเหนือซึ่งเป็นชาติศัตรูคู่อาฆาตของโสมขาว ระหว่างการบรรยายในกรุงโซล โดยนับเป็นคดีล่าสุดที่บรรดานักวิจารณ์ชี้ว่าเป็นการล่วงละเมิดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของเกาหลีใต้

คิม ดูยอล เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีเผยว่า ทางหน่วยงานได้ตัดสินใจส่งตัว ชิน อึนมี ชาวเมืองแคลิฟอร์เนียออกนอกประเทศ ภายหลังอัยการชี้ว่า เธอแสดงทัศนะละเมิดกฎหมายความมั่นคงเกาหลีใต้

ชินโดยสารเครื่องบินเดินทางจากกรุงโซล ไปยังสหรัฐฯ เมื่อเย็นวานนี้ (10) เจ้าหน้าที่ตม.แดนกิมจิอีกคนให้ข้อมูล โดยไม่ขอเปิดเผยชื่อเนื่องด้วยเป็นกฎของหน่วยงาน

ชินกล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนออกเดินทางว่า “ถ้าให้พูดกันตรงๆ แล้ว ดิฉันรู้สึกเหมือนถูกคนที่ดิฉันตกหลุมรักทรยศ” พร้อมกันนี้เธอบอกว่าหวังว่าจะสามารถเดินทางกลับเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือได้อีกครั้ง

ทั้งนี้ ในทางหลักการแล้ว คาบสมุทรเกาหลีซึ่งถูกแบ่งแยกด้วยเส้นเขตแดนที่มีการวางกำลังป้องกันแน่นหนายังตกอยู่ในสภาวะสงคราม เนื่องจากสงครามเกาหลีที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1950-1953 นั้นไม่ได้สิ้นสุดลงด้วยการทำข้อตกลงสันติภาพ แต่เป็นการทำสัญญาสงบศึกชั่วคราว ตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติโสมขาว การยกย่องสรรเสริญเกาหลีเหนือในเกาหลีใต้นั้นถือเป็นความผิดที่อาจถูกระวางโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี

ทางด้าน เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า ก่อนหน้านี้ ชินถูกสั่งห้ามเดินทางออกจากเกาหลีใต้นาน 3 สัปดาห์ และสหรัฐฯ ได้ส่งรายรับทราบรายงาน ซึ่งระบุว่า อัยการโสมขาวได้สั่งให้เนรเทศเธอ รวมทั้งสั่งห้ามเธอเดินทางกลับเกาหลีใต้เป็นเวลา 5 ปี
คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือเดินทางเยือนฟาร์มเห็ดแห่งใหม่ ในกรุงเปียงยาง
ในการแสดงความคิดเห็นถึงเกาหลีใต้ ชาติพันธมิตรสำคัญของแดนอินทรี ซึ่งนานๆ ทีจะเกิดขึ้นสักครั้ง ซากีกล่าวว่า ถึงแม้เกาหลีใต้จะสามารถรักษาประวัติด้านสิทธิมนุษยชนไว้ได้น่าพอใจ แต่กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับนี้ก็ยังจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และจำกัดโอกาสในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต

ฝ่ายสนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ให้เหตุผลว่า กฎหมายความมั่นคงถือเป็นสิ่งจำเป็น ในยามที่เกาหลีเหนือออกมาขู่คุกคามจะใช้อาวุธนิวเคลียร์มากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่นักวิจารณ์ต่างต้องการให้เลิกบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ เนื่องจาก ในอดีตบรรดาผู้นำเผด็จการของเกาหลีใต้เคยใช้กฎหมายฉบับนี้ปราบปรามคู่แข่งทางการเมืองอยู่บ่อยครั้ง

ทั้งนี้ ชิน ได้เผยแพร่เรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยวในเกาหลีเหนือของตัวเอง ผ่านเว็บไซต์ข่าวยอดนิยม OhmyNews ของเกาหลีใต้ นอกจากนี้รัฐบาลยังได้ขึ้นบัญชีหนังสือบันทึกการเดินทางของเธอไว้ในรายชื่อหนังสือที่ควรอ่านประจำปี 2013 จนกระทั่งกระทรวงวัฒนธรรมได้ถอดชื่อหนังสือเล่มดังกล่าวในสัปดาห์นี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรมระบุว่า จะเก็บสำเนา 1,200 ฉบับจากห้องสมุดทั่วประเทศ

ในการบรรยายเมื่อเดือนพฤศจิกายน ณ กรุงโซล ชินเล่าว่า มีชาวเกาหลีเหนือที่ลอบเดินทางออกนอกประเทศจำนวนมากบอกเธอว่า อยากกลับประเทศบ้านเกิด และคาดหวังว่า คิม จองอึน ผู้นำโสมแดงจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่ประเทศ นอกจากนี้ เธอยังได้เอ่ยชมเบียร์โสมแดงว่ามีรสชาติดี และแม่น้ำในเกาหลีเหนือก็ใสสะอาด

ชินบอกว่า เธอไม่ได้มีเจตนาจะสรรเสริญเกาหลีเหนือ หากแต่ต้องการบรรยายความรู้สึกของเธอในช่วงเดินทางไปท่องเที่ยวในเปียงยางเพียงเท่านั้น

บรรดานักอนุรักษนิยมได้สนับสนุนให้รัฐบาลโสมขาวขับชินออกจากประเทศ พร้อมกล่าวหาว่า เธอเพิกเฉยต่อปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนอันเลวร้ายในเกาหลีเหนือ แต่การสั่งเนรเทศเธอได้จุดชนวนให้ฝ่ายเสรีนิยมออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงว่า รัฐบาลอนุรักษนิยมของประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย กำลังควบคุมเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน

ส่วนที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ฟาร์ฮัน ฮัก ผู้ช่วยโฆษกของเลขาธิการ บัน คีมูน ซึ่งเป็นชาวเกาหลีใต้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “เป็นที่ทราบกันดีว่า ท่านเลขาธิการยูเอ็นมีจุดยืนสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงออก และเสรีภาพทางคิด ... รวมทั้งสำหรับกรณีนี้ก็เช่นกัน”
ชายชาวเกาหลีเหนือจูงจักรยานกลับหมู่บ้านอันเงียบสงบในช่วงบ่ายของวันที่อากาศสดใส ที่จังหวัดฮัมยอง ทางตอนเหนือของประเทศ

กำลังโหลดความคิดเห็น