เอเอฟพี – นักวิทยาศาสตร์นิวซีแลนด์เตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บนเกาะใต้ระวังอาฟเตอร์ช็อกที่อาจติดตามมา หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.0 เมื่อช่วงเช้าวันนี้(6) ซึ่งยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บ
แรงสั่นสะเทือนครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 6.48 น. (0.48 น. ตามเวลาในไทย) ในเขตที่มีผู้คนอยู่อาศัยเบาบาง ห่างไปทางตะวันตกราว 100 กิโลเมตรจากเมืองไครสต์เชิร์ชซึ่งเคยเผชิญเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 6.3 เมื่อปี 2011
ศูนย์เฝ้าระวังแผ่นดินไหว “จีโอเน็ต” วัดแรงสั่นสะเทือนเบื้องต้นได้ถึง 6.4 ก่อนจะปรับตัวเลขลงมาเป็น 6.0 ขณะที่สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) วัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวได้เพียง 5.6 โดยมีศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้พื้นดินราว 10 กิโลเมตร
“แผ่นดินไหวระดับนี้ถือว่ามีความรุนแรง” จีโอเน็ต ระบุในถ้อยแถลง พร้อมอธิบายว่า จุดศูนย์กลางและขนาดของแผ่นดินไหวค่อนข้างสับสนในช่วงแรกๆ เพราะมี “ฟอร์ช็อก” ขนาดย่อมเกิดก่อนแผ่นดินไหวจริงประมาณ 5 วินาที
ภายใน 4 ชั่วโมงหลังจากนั้นได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาถึง 30 ครั้ง วัดความรุนแรงได้สูงสุด 4.2 “ซึ่งเราคาดว่าอาจจะมีตามมาอีก” จีโอเน็ต ประกาศเตือน
“หากพิจารณาจากอาฟเตอร์ช็อกที่เคยเกิดเป็นลำดับ ครั้งนี้อาจจะรุนแรงได้สูงสุด 5.0”
นิวซีแลนด์ตั้งอยู่บนแนว “วงแหวนไฟ” แห่งมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกที่มักจะเกิดกิจกรรมแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิด
หมู่เกาะแดนกีวีต้องเผชิญแผ่นดินไหวทั้งขนาดใหญ่และย่อมราว 20,000 ครั้งต่อปี
แผ่นดินไหว 6.3 เมื่อปี 2011 ได้คร่าชีวิตประชาชนที่เมืองไครสต์เชิร์ชไปถึง 185 คน และถือเป็นเหตุธรณีพิบัติภัยที่ร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในนิวซีแลนด์ยุคใหม่ ขณะที่เมืองหลวงอย่างกรุงเวลลิงตันเคยเกิดแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์นิวซีแลนด์เมื่อปี 1855
แผ่นดินไหวขนาด 8.2 ที่กรุงเวลลิงตัน แม้จะทำให้มีผู้เสียชีวิตเพียง 4 ราย แต่กลับทำให้สภาพทางธรณีวิทยาของเมืองเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก กล่าวคือ พื้นอ่าวเกิดการยกตัวจนชายหาดร่นลงไปจากเดิมถึง 200 เมตร
