จนท.เซาท์ออสเตรเลียเร่งดับไฟป่า ก่อนคลื่นความร้อนหวนคืนกลางสัปดาห์

เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ดับเพลิงในวันจันทร์ (5 ม.ค.) เร่งมือควบคุมไฟป่าครั้งใหญ่ท่ามกลางความคาดหมายว่าภาวะลมแรงและคลื่นความร้อนจะหวนคืนมาอีกระลอก หลังเพลิงนรกได้เผาผลาญบ้านเรือนได้แล้ว 26 หลังในไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดของรัฐเซาท์ออสเตรเลียในรอบ 3 ทศวรรษ

หน่วยดับเพลิงของรัฐเผยว่ามีที่ดินอีกจำนวนมากที่ตกอยู่ในความเสี่ยง หลังจากไฟป่าได้เผาผลาญป่าและที่ทำกินในแถบเทือกเขาลอฟท์ตี ทางตะวันออกของเมืองแอดิเลด ไปเกือบ 32,124 เอเคอร์ (ราว 12,800ไร่) เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

เจย์ เวเธอริล มุขมนตรีรัฐเซาต์ออสเตรเลีย บอกว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังเร่งมือควบคุมไฟป่าท่ามกลางอุณหภูมิที่เย็นขึ้นและลมสงบลง ก่อนที่คาดหมายว่าสภาพอากาศที่เป็นอันตรายจะหวนกลับคืนสู่แถบภูเขาของแอดิเลดในวันพุธ (7 ม.ค.)

“ชัดเจนว่ายังคงมีความอันตราย” เขาบอกกับผู้สื่อข่าว ขณะที่อากาศยานเดินหน้าทิ้งสารเคมีหน่วงไฟหลายแสนลิตรลงสู่เปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำครอบคลุมรัศมี 238 กิโลเมตร “มันไม่ได้หมายความว่ามันสิ้นสุดลงแล้ว”

มุขมนตรีรัฐเซาต์ออสเตรเลียกล่าวต่อว่า “เรากำลังเร่งมือแข้งกับเวลาเพื่อพยายามให้แน่ใจว่า เราสามารถควบคุมเพลิงส่วนใหญ่ไว้ได้แล้ว ก่อนที่คาดหมายว่าในช่วงกลางสัปดาห์ สภาพอากาศจะร้อนขึ้นและลมจะแรงขึ้น” เขากล่าว

เวเธอริลยืนยันด้วยว่า พบบ้านเรือน 26 หลังและสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ 41 หลังได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้เป็นเพียงข้อมูลตามหลังการตรวจเช็กพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเพียง 20 จุดจากทั้งหมด 59 จุดเท่านั้น ขณะที่ตำรวจเสริมมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากเหตุไฟป่าครั้งนี้อย่างน้อย 29 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหน่วยผจญเพลิง

พยากรณ์ว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้นเหนือ 38 องศาเซลเซียสอีกครั้งในวันพุธ (7 ม.ค.) หลังจากเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อากาศบริเวณแอดิเลด ฮิลส์ ซึ่งมีประชากรราว 40,000 คน มีบ้านเรือนสวยงามและเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งผลิตไวน์ บริเวณเทือกเขาลอฟท์ตี มีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส

เกรก เนตเติลตัน หัวหน้าหน่วยดับเพลิงของเมืองบอกว่าสภาพของลมจะมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับปฏิบัติการขั้นต่อไป พร้อมระบุด้วยที่มีแนวโน้มว่าจะมีฝนตกหนักตั้งแต่วันศุกร์ (9 ม.ค.) เป็นต้นไป คงช่วยทีมผจญเพลิงได้มาก หลังจากโฆษกสำนักงานอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่าอาจมีฝนตกลงมากหนาเม็ดเกือบๆ 2 นิ้วหากว่าหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวมาจากทางตะวันตกของออสเตรเลีย ตามที่คาดหมายไว้

เจ้าหน้าที่รัฐเซาท์ออสเตรเลียบอกว่า เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือว่าสภาพอากาศเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ 1983 ที่คราวนั้นไฟป่าคร่าชีวิตผู้คนในรัฐแห่งนี้และรัฐวิคตอเรีย รวมกันมากกว่า 70 ศพ ทำลายบ้านเรือนและอาคารต่างๆอีกหลายพันหลัง

หน่วยดับเพลิงรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ลดระดับคำเตือนฉุกเฉินลงเมื่อวันอาทิตย์ (4 ม.ค.) แต่ก็เน้นว่าไฟป่ายังโหมกระพืออย่างอิสระไปในทุกทิศทุกทาง ส่วนในรัฐวิคตอเรียที่อยู่ติดกัน อุณหภูมิเย็นขึ้นในเดียวกัน และมีการลดระดับเตือนภัยไฟป่าเช่นกัน หลังจากชาวบ้านต้องสูญเสียปศุสัตว์ไปหลายหมื่นตัว ทั้งนี้ในวันจันทร์ (5 ม.ค.) ยังพบไฟโหมกระพืออยู่ 3 จุดในรัฐวิคตอเรีย อย่างไรก็ตามไม่มีชุมชนใดที่ตกอยู่ในความเสี่ยง