“อดีตเลขาปธน.เกาหลีใต้” ถูกตั้งข้อหาเผยแพร่เอกสารปลอมแฉ “สัมพันธ์ลับปธน.หญิงกับอดีตที่ปรึกษาหนุ่มช่วงเฟอร์รีเซวอลล่ม”

เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - โช อึง-เชิน (Cho Eung-Cheon) อดีตเลขาประธานาธิบดีเกาหลีใต้ พัก กึน-ฮเย ในวันนี้(5) ถูกตั้งข้อกล่าวหาเผยแพร่เอกสารปลอม เปิดเผยชีวิตส่วนตัวของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่มีระบุข้อความชี้ จอง ยุน-โฮ (Jeong Yun-Hoe )อดีตที่ปรึกษาประธานาธิบดีหญิง ใช้อำนาจรับฟังการสรุปรายงานจากเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบสีน้ำเงินถึงแม้ไม่มีตำแหน่งในฝ่ายบริหาร รวมไปถึงเปิดเผยถึงการพบลับระหว่างผู้นำหญิงเกาหลีใต้และตัวเขาในช่วงเหตุการณ์เรือเฟอร์รีเซวอลล่ม จนทำให้เกิดการฟ้องร้องทางคดีความกับสื่อเกาหลีใต้และสื่อต่างชาติ

ทั้งนี้เอกสารภายในจากทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่ถูกเผยแพร่อ้างว่า จอง ยุน-โฮ (Jeong Yun-Hoe ) อดีตที่ปรึกษาของประธานาธิบดีพัก กึน-ฮเย ในขณะที่เธอยังดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้ ได้เข้ามาก้าวก่ายการบริหารประเทศด้วยการเข้ารับฟังรายงานสรุปจากเจ้าหน้าที่ของประธานาธิบดีเกาหลีใต้จำนวน 10 คน ถึงแม้ว่าจอง ยุน-โฮจะไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการในส่วนการบริหารก็ตาม

โดยอัยการเกาหลีใต้ประกาศวันนี้(5)จากการรายงานของเคบีเอส สื่อเกาหลีใต้ ที่เรียกเอกสารฉบับนี้ว่า “รายงาน จอง ยุน-โฮ” นั้นเป็นเท็จ

นอกจากนี้เอเอฟพีรายงานว่า โช อึง-เชิน (Cho Eung-Cheon) อดีตเลขาประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่ได้พ้นจากตำแหน่งประจำทำเนียบสีน้ำเงินในเดือนที่ผ่านมา ถูกตั้งข้อกล่าวหา “เผยแพร่เอกสารโดยไม่ได้รับอนุญาต” ยู ซัง-บุม ( Yoo Sang-Bum) อัยการเกาหลีใต้แถลง และกล่าวเพิ่มเติมว่า “การสอบสวนของเราชี้ว่าเอกสารนั้นเกิดมาจากการแอบปลอมแปลงทำขึ้น” ยู ซัง-บุม สรุปผ่านการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์

ทั้งนี้ยอนฮับ สำนักข่าวเกาหลีใต้รายงานในวันที่ 3 มกราคม 2015พบว่าเอกสารชิ้นนี้ถูกจัดทำโดยปาร์ก ควาน-เชิน(Park Kwan-cheon)  เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานให้กับทำเนียบสีน้ำเงินของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ภายใต้การสั่งการของ โช อึง-เชิน และหลังจากนั้นตำรวจนายนี้ถูกจับกุม และถูกตั้งข้อหาจัดทำสำเนาเอกสารจำนวนกว่า 100หน้า ซึ่งทางอัยการเกาหลีใต้เชื่อว่า มีเอกสารลับเกี่ยวกับประธานาธิบดีหญิงเกาหลีใต้ถึง 17ฉบับ และตำรวจผู้นี้ได้มอบต่อให้กับจี-มาน (Ji-man)วัย 54 ปี น้องชายของ พัก กึน-ฮเย ประธานบอร์ดบริหารบริษัท EG Group ซึ่งในท้ายที่สุดได้เผยแพร่ต่อสื่อมวลชน โดยเชื่อกันว่า จุดประสงค์ของอดีตเลขาประธานาธิบดีเกาหลีใต้เพื่อต้องการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งระดับสูงของเขาโดยอาศัยน้องชายของพัก กึน-ฮเย

หนังสือพิมพ์เกาหลีใต้ Segye Time ได้อ้างอิงเอกสารฉบับนี้ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาในขณะที่เสนอข่าวว่า จอง ยุน-โฮ อดีตที่ปรึกษาของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้รับรายงานสรุปประจำวันจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบสีน้ำเงินถึงแม้ว่าคนผู้นี้ไม่มีตำแหน่งในการบริหารก็ตาม แต่ทว่าแต่อย่างไรก็ตาม อัยการเกาหลีใต้แถลงในวันจันทร์(5)ว่า จากการสืบสวน ไม่พบว่ามีการพบปะกันระหว่างอดีตที่ปรึกษาจอง ยุน-โฮ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบนำเงินในระหว่างที่มีการบุกเข้าไปถึงสถานที่คาดว่าจะถูกใช้เพื่อพบปะ และมีการตรวจสอบบันทึกการใช้โทรศัพท์

ซึ่งจอง ยุน โฮ อดีตที่ปรึกษาประธานาธิบดีเกาหลีใต้ พัก กึน-ฮเย กล่าวปฎิเสธว่า ไม่ได้ทำผิดอะไรพร้อมกับขึ้นศาลฟ้องร้อง พร้อมกันนี้ คิม คี-ชุน (Kim Ki-choon) หัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้ฟ้องสื่อเกาหลีใต้ Dong-A Ilbo ที่ได้เสนอข่าวว่า ตัวเขาได้ออกคำสั่งให้รายงานความเคลื่อนไหวของจอง ยุน-โฮ

ส่วนทำเนียบสีน้ำเงินออกแถลงข่าวปฎิเสธถึงข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในเอกสารภายในฉบับที่ตกเป็นข่าวฉาว

นอกจากนี้วอลสตรืเจอร์นัลด์ฉบับวันที่ 12 ธัรนวาคม 2014 เปิดเผยถึงความสัมพันธ์ระหว่าง จอง ยุน-โฮและ พัก กึน-ฮเยว่า จอง ยุน-โฮ ได้เริ่มให้การช่วยเหลือประธานาธิบดีหญิงเกาหลีใต้ในขณะที่เธอเริ่มเข้ามาในแวดวงการเมืองในฐานะสมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้ในยุค 90 และเขาได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะทำงานของเธอตั้งแต่ปี 1998 -2004 และได้ลาออกไปอย่างกระทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุในปีนั้น โดยประธานาธิบดีหญิงเกาหลีใต้ยืนยันว่าเธอไม่ได้รับการติดต่อกับอดีตที่ปรึกษาคนนี้เป็นเวลาหลายปี

และเอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า มีการตั้งข้อกล่าวหาชุดล่าสุดเกิดขึ้นในไม่กี่สัปดาห์ถัดมาหลังมีการเปิดการใต่สวนนักข่าวญี่ปุ่นในข้อหาการโฆษณาหมิ่นประมาททางอาญาในบทความที่เขียนในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ทัตซึยะ คาโต (Tatsuya Kato) หัวหน้าบรรณาธิการบริหาร ที่ดำรงตำแหน่งจนถึงวันที่ 1 ตค. 2014 ของหนังสือพิมพ์แนวอนุรักษ์นิยมญี่ปุ่น ซันเคอิ ชิมบุน ได้เขียนบทความถามถึงอดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ พัก กึน-ฮเย ว่าอยู่ที่ใดในขณะเกิดเหตุเรือเฟอร์รีเซวอลล่มในเดือนเมษายน 2014 ซึ่งคร่าชีวิตผู้โดยสารไปร่วม 300 ชีวิต

โดยบทความนี้ถูกเขียนอ้างอิงข่าวลือฉาวที่เผยแพร่ในสื่อเกาหลีใต้และห้องค้าหลักทรัพย์ในโซลว่า ประธานาธิบดีหญิงเกาหลีใต้ที่มีสถานะโสด ได้หายตัวไปอย่างลึกลับเพื่อไปหาความสุขตามลำพังสองต่อสองกับอดีตผู้ช่วยหนุ่มของเธอ จอง ยุน-โฮ ในขณะที่เกิดเหตุโศกนาฎกรรมเรือเฟอร์รีเซวอลล่ม

ทั้งนี้กฎหมายเกาหลีใต้ที่เกี่ยวกับการโฆษณาหมิ่นประมาททางอาญานั้นให้ความสำคัญว่า สิ่งที่กล่าวหรือข้อเขียนนั้นถูกนำเสนอเผยแพร่ต่อที่สาธารณะหรือไม่ มากกว่าจะให้ความสำคัญว่าเนื้อหาที่นำเสนอนั้นเป็นจริงหรือไม่

ด้านกลุ่มปกป้องสื่อมวลชน นักข่าวไร้พรมแดนได้วิพากษ์การใต่สวนนักข่าวญี่ปุ่นว่า ในคดีนี้เห็นได้ชัดว่าเนื้อหาที่เผยแพร่นั้นมีประโยชน์ต่อสาธารณะ