เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ทางการเวเนซุเอลายืนยันในวันอังคาร (30 ธ.ค.) ระบุ เศรษฐกิจของตนก้าวเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยพบการหดตัวตลอดช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงลิ่วแตะระดับ “63 เปอร์เซ็นต์” ในรอบ 12 เดือนนับถึงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ข้อมูลที่เปิดเผยโดยธนาคารกลางเวเนซุเอลาระบุ เศรษฐกิจของประเทศมีการหดตัวในช่วงไตรมาสแรก ไตรมาสสอง และไตรมาสสามที่ 4.8 เปอร์เซ็นต์ , 4.9 เปอร์เซ็นต์ และ 2.3 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ
ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อซึ่งรัฐบาลเวเนซุเอลาไม่มีการเผยแพร่ข้อมูลสู่สาธารณชนมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม อยู่ที่ระดับ 4.7 เปอร์เซ็นต์ในเดือนพฤศจิกายน และพุ่งสูงถึง 63.6 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ส่งผลให้เวเนซุเอลาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในโลกในขณะนี้
ที่ผ่านมารัฐบาลนิยมซ้ายของประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร พยายามรับมือกับการพุ่งสูงของราคาสินค้าอุปโภคบริโภคด้วยการประกาศควบคุมราคา โดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหาร ตลอดจนราคาค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศ แต่ไม่ประสบความสำเร็จมากนักในการควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งถูกซ้ำเติมอย่างเลวร้ายด้วยปัญหาการขาดแคลนสินค้าจำเป็นพื้นฐานกว่า 19 ชนิด
ทั้งนี้ การดิ่งลงของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังถือเป็นปัจจัยเชิงลบซ้ำเติมเศรษฐกิจของเวเนซุเอลา ซึ่งมีรายได้กว่า 96 เปอร์เซ็นต์มาจากการส่งออกน้ำมัน ขณะที่ประธานาธิบดีมาดูโรออกมายอมรับในช่วงก่อนหน้านี้ว่า รายได้จากการส่งออกน้ำมันของประเทศได้ปรับลดลงอย่างสำคัญ จากที่เวเนซุเอลาเคยส่งออกน้ำมันได้ที่ระดับ 95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนกันยายน เหลือเพียงไม่ถึง 48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในขณะนี้