เอพี - ศาลของเกาหลีใต้เมื่อวันอังคาร(30ธ.ค.) อนุมัติหมายจับอดีตรองประธานบริหารสายการบินโคเรียนแอร์ ผู้เป็นต้นตอให้เที่ยวบินหนึ่งต้องล่าช้า กรณีที่เธอสั่งให้กัปตันนำเครื่องวกกลับลงจอดเทียบอาคารผู้โดยสาร หลังไม่พอใจลูกเรือคนหนึ่งที่เสิร์ฟถั่วให้เธอไม่เรียบร้อย
โช ฮยุนอา วัย 40 ปี ลูกสาวของประธานสายการบิน ต้องเผชิญกับความขุ่นเคืองจากสาธารณชน เพราะเธอบังคับให้เครื่องบินวกกลับไปจอดเทียบประตูอาคารผู้โดยสารในนิวยอร์ก เพื่อไล่หัวหน้าแอร์โฮสเตสลงจากเครื่อง หลังเธอไม่พอใจที่ลูกเรือคนหนึ่งเสิร์ฟถั่วแมคคาเดเมียแก่เธอทั้งห่อแทนที่จะแกะใส่จานตามคู่มือบริการของสายการบินที่กำหนดไว้ ในเหตุการณ์ที่ได้รับการเรียกขานว่า "นัทเรจ" (ความเดือดดาลเพราะถั่ว)
อัยการยังไม่เดินหน้าดำเนินคดีทางอาญาต่อโช แต่ตามกฎหมายของเกาหลีใต้อนุญาตให้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้นานสูงสุด 6 เดือน ด้วยความกังวลว่าบุคคลนั้นอาจหลบหนีหรือทำลายหลักฐาน และทางศาลแขวงโซลตะวันตกก็อนุมัติหมายจับจากข้อวิตกดังกล่าว
นอกจากนี้แล้วศาลยังอนุมัติหมายจับ เจ้าหน้าที่บริหารโคเรียนแอร์ คนปัจจุบันอีกราย ซึ่งมีนามสกุลว่า เยียว ฐานต้องสงสัยกดดันพนักงานของสายการบินโคเรียนแอร์ ให้ปกปิดเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยศาลบอกว่ามีความพยายามอย่างเป็นระบบในการปกปิดพฤติกรรมของโช นับตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น
สำนักงานอัยการโซลตะวันตก บอกว่าโช มีสิทธิ์ถูกดำเนินคดีหลายข้อหา ในนั้นรวมถึงก่อความรุนแรงระหว่างเที่ยวบินและเปลี่ยนเส้นทางของเที่ยวบิน ซึ่งตามกฎหมายด้านการบินแล้ว เธอไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนั้น
โช ลาออกจากเก้าอี้รองประธานของโคเรียนแอร์เมื่อช่วงต้นเดือน และจากทุกบทบาทของเธอที่เกี่ยวข้องกับสายการบินแห่งนี้
ผู้โดยสารคนหนึ่งบนเที่ยวบินเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่นว่า โช ทำร้ายและข่มขู่เหล่าลูกเรือ ส่วนปาร์ค ชาง-จิน พนักงานต้อนรับระดับอาวุโสที่ถูกตะเพิดลงจากเครื่อง บอกกับสถานีโทรทัศร์เคบีเอสว่าเขาโดนดูถูกและจำเป็นต้องคุกเข่าต่อหน้าเธอ เพราะว่าไม่กล้าเผชิญหน้ากับเธอที่มีฐานะเป็นถึงลูกสาวของประธาน
การกระทำของเธอไปกระตุ้นความรู้สึกของชาวเกาหลีใจ้ที่ผิดหวังกับพฤติกรรมของสมาชิกในครอบครัวกลุ่มธุรกิจยักษ์ในแดนโสมชาวหรือที่เรียกว่า "แชโบล" ซึ่งมีอิทธิพลครอบงำเศรษฐกิจหมายเลข 4 ของเอเชียแห่งนี้
นอกจากนี้แล้วกระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ด้วยมีข้อครหาว่าคณะสืบสวนของกระทรวงที่เข้าดำเนินการตรวจสอบเหตุกรณ์ที่เกิดขึ้น มีความเป็นกันเองเกินไปกับเหล่าผู้บริหารของสายการบินที่พยายามปกป้องโช และด้วยคณะสืบสวนของกระทรวงส่วนใหญ่เคยทำงานกับโคเรียนแอร์ จึงก่อคำถามด้านความยุติธรรม
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ทางกระะทรวงคมนาคมตัดสินใจลงโทษเจ้าหน้าที่ 4 คนของคณะสืบสวนฐานปฏิบัติตัวไม่เหมาะสมระหว่างการตรวจสอบ หลังจากก่อหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งถูกจับกุมฐานปล่อยข้อมูลเกี่ยวกับการสืบสวนโชรั่วไหล ในนั้นมีทั้งบทสนทนาทางโทรศัพท์และข้อความทางโทรศัพท์มือถือ