เอเอฟพี - อัยการเกาหลีใต้วันนี้ (17 พ.ย.) เปิดฉากสอบสวน “โช ฮยุนอา” อดีตผู้บริหารอาวุโส ผู้เป็นทายาทของสายการบิน “โคเรียนแอร์” ภายหลังที่เธอสั่งให้นักบินชะลอการนำเครื่องขึ้น เนื่องจากลูกเรือคนหนึ่งเสิร์ฟถั่วให้เธอไม่เรียบร้อย จนประกายให้ชาวเกาหลีใต้พากันแค้นเคือง และผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์พากันขนานนามเหตุการณ์นี้ว่า “นัตเรจ” (ความเดือดดาลเพราะถั่ว)
ลูกสาววัย 40 ปีของประธานบริหารสายการบินโคเรียนแอร์ ได้สั่งให้กัปตันนำเครื่องบินกลับไปเทียบอาคารผู้โดยสารใหม่ เพื่อไล่หัวหน้าพนักงานต้อนรับลงจากเที่ยวบินเส้นทางนิวยอร์ก-โซล เนื่องจากไม่พอใจที่มีลูกเรือนำถั่วแมคคาเดเมียมาเสิร์ฟให้เธอ ทั้งที่ไม่ได้สั่ง แถมยังเสิร์ฟทั้งถุงแทนที่จะแกะใส่ถ้วยตามที่คู่มือบริการของสายการบินกำหนดไว้
“ดิฉันขอโทษ” โชกล่าวเสียงอ่อย ขณะถูกรุมล้อมไปด้วยกองทัพนักข่าวและช่างภาพ ที่ดักรอเธออยู่หน้าสำนักงานอัยการโซลตะวันตก เธอค้อมศีรษะลงจนผมยาวประบ่าสยายลงมาปรกหน้า
ผลการสอบสวนของกระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้พบว่า โชได้ฝ่าฝืนกฎหมายความปลอดภัยด้านการบิน ด้วยการกรีดร้องและผรุสวาทใส่ลูกเรือ และพัค ชางจิน หัวหน้าพนักงานต้อนรับ ระหว่างเหตุการณ์ “นัตเรจ” เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา
สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานว่า อัยการจะมุ่งสอบสวนว่าทายาทหญิงของสายการบินประจำชาติได้ขับไล่หัวหน้าพนักงานต้อนรับลงจากเครื่อง และสั่งให้นักบินนำเครื่องกลับไปจอดเทียบอาคารผู้โดยสารใหม่จริงหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบว่า เธอใช้ความรุนแรงกับลูกเรือทั้งสองคนหรือไม่
พัคให้การว่า โชผลักเขาไปติดประตูห้องนักบิน ก่อนจะใช้หนังสือคู่มือบริการกระทุ้งเขา
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โชได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยสั่งให้พัค และลูกเรืออีกคนคุกเข่าวอนขอให้เธอยอมยกโทษ แต่ผู้โดยสารคนหนึ่งบนชั้นเฟิร์สต์คลาส ยืนยันว่าสิ่งที่พัคพูดส่วนใหญ่เป็นเรื่องจริง และลูกสาวประธานสายการบินได้สั่งให้ทั้งสองนั่งคุกเข่า
ทั้งนี้ โช ซึ่งเป็นบุตรสาวคนโตของโช ยางโฮ ประธานบริหารสายการบินโคเรียนแอร์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มธุรกิจ ฮันจินกรุ๊ป ได้ออกมากล่าวขออภัยต่อสาธารณะ และประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งในกลุ่มกิจการของครอบครัว
นอกจากนี้ อัยการเกาหลีใต้จะสอบสวนด้วยว่า คณะผู้บริหารของสายการบินเจ้านี้ได้บีบบังคับให้ลูกเรือให้การเท็จต่อคณะผู้ตรวจการณ์ของรัฐ เพื่อปกป้องโช หรือไม่
หนังสือพิมพ์รายวัน “โชซุน อิลโบ” รายงานคำพูดของอัยการ ที่ระบุว่า “เกิดกระแสกังวลว่า จะมีการทำลายหลักฐาน เราจึงต้องวางแผนยับยั้งด้วยการขอให้ศาลออกหมายจับไว้ก่อน”
วานนี้ (16) กระทรวงยังระบุเพิ่มเติมด้วยว่า โคเรียนแอร์จะ ต้องถูกสั่งแบนเที่ยวบินหนึ่งเที่ยวบินเป็นเวลา 1 เดือน แต่ยังไม่ได้กำหนดว่าคำสั่งห้ามนี้จะถูกนำมาบังคับใช้กับเส้นทางใด หรือไม่ก็ต้องถูกสั่งปรับเป็นเงินสูงสุด 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 65.99 ล้านบาท)
นอกจากนี้ ทางกระทรวงยังได้ขอให้อัยการเปิดฉากสืบสวนอาชญากรรมต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย