รอยเตอร์ – ปาเลสไตน์เตรียมการยื่นร่างมติสถานะการเป็นรัฐฉบับสมบูรณ์ต่อองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในวันนี้ (29) เพื่อเรียกร้องให้มีการทำข้อตกลงสันติภาพกับอิสราเอลภายในหนึ่งปีและยุติการยึดครองดินแดนของปาเลสไตน์ภายในสิ้นปี 2017 คณะเจ้าหน้าที่ เผย
มาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ ได้แจ้งต่อ จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯว่า เขาจะใช้ร่างมตินี้เดินหน้ากดดัน แม้อิสราเอลและสหรัฐฯจะคัดค้านก็ตาม สำนักข่าว วาฟา ของทางการปาเลสไตน์ รายงาน
ด้านชาติยุโรปหลายประเทศเรียกร้องเรื่อยมาให้มีกำหนดเวลาที่อย่าเข้มงวดมากนัก ซึ่งอาจจะได้รับเสียงสนับสนุนกว้างขวางกว่านี้
ซาเอ็บ อีเรคัต เจ้าหน้าที่อาวุโสของปาเลสไตน์ บอกกับรอยเตอร์ว่า “ในวันนี้กลุ่มอาหรับจะประชุมกันในรัฐนิวยอร์ก และเราจะยื่นร่างมติฉบับต้นนี้ต่อคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น ซึ่งหวังว่าจะได้ข้อสรุปภายในวันพรุ่งนี้ (30) หรือวันมะรืน (31)
คณะเจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ กล่าวว่า ข้อเสนอดังกล่าวเรียกร้องมีการเจรจาโดยยึดจากเส้นเขตแดนที่เคยมีอยู่ก่อนที่อิสราเอลจะเข้ายึดเขตเวสต์แบงค์ , เยรูซาเล็มตะวันออก และฉนวนกาซาในช่วงสงครามตะวันออกกลางปี 1967
อิสราเอล ซึ่งถอนทหารและผู้ตั้งถิ่นฐานออกจากฉนวนกาซาในปี 2005 ได้อ้างว่า พรมแดนตะวันออกของพวกเขาจะไม่สามารถป้องกันได้หากพวกเขาถอนกำลังจากเขตเวสต์แบงค์ทั้งหมด
ร่างฉบับหนึ่งของปาเลสไตน์ ซึ่งจอร์แดนเคยยื่นต่อคณะมนตรีความมั่นคงเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ออกข้อเรียกร้องให้นครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงร่วมกันของทั้งอิสราเอลและรัฐปาเลสไตน์
คณะเจ้าหน้าที่ เผยว่า ข้อเสนอฉบับสมบูรณ์นี้กลับมาสู่แนวทางเข็งกร้าวกว่าเดิม โดยระบุแต่เพียงว่า เยรูซาเล็มจะเป็นเมืองหลวงของปาเลสไตน์ และยังเรียกร้องให้มีการยุติการสร้างนิคมของอิสราเอลในเวสต์แบงค์และเยรูซาเล็มตะวันออก
อิสราเอล ระบุว่า การลงมติของคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งกำลังมีขึ้นภายหลังความล้มเหลวเมื่อเดือนสิงหาคมในการเจรจาว่าด้วยสถานะการเป็นรัฐของปาเลสไตน์ที่มีสหรัฐฯเป็นตัวกลาง จะรังแต่ทำให้ความขัดแย้งนานหลายสิบปีนี้ซับซ้อนยิ่งขึ้น โดยพวกเขาสนับสนุนการเจรจาแต่ไม่ยอมรับกำหนดเวลาจากบุคคลภายนอก
ทั้งนี้ เพื่อที่จะรับรองมติ ซึ่งจะบังคับให้สหรัฐฯ พันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของอิสราเอล ต้องตัดสินใจว่าจะวีโตหรือไม่ จำเป็นต้องมีเสียงโหวตจากคณะมนตรีความมั่นคง 9 เสียงเสียก่อน