กองทัพสหรัฐฯ ได้ออกมาแถลงยอมรับว่า มีนักบินจากจอร์แดนที่เข้าร่วมดำเนินปฏิบัติการทางอากาศในซีเรีย เพื่อปราบปรามกลุ่มติดอาวุธ “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ถูกจับเป็นตัวประกันจริง แต่ปฏิเสธว่าเครื่องบินขับไล่ที่หายไปลำนี้ไม่ได้ถูกกลุ่มนักรบญิฮัดหัวรุนแรงยิงตกดังที่พวกเขาอวดอ้างผ่านเว็บไซต์ ในขณะที่กองทัพจอร์แดนรับปากกับครอบครัวของนักบินผู้เคราะห์ร้ายคนนี้ว่าจะหาทางช่วยชีวิตเขากลับมาให้ได้
เจ้าหน้าที่อาวุโสของกองทัพจอร์แดนระบุว่า นักบินคนดังกล่าวถูก “องค์การก่อการร้ายไอเอส” จับเป็นตัวประกันไว้ที่เมืองรอกเกาะห์ ทางเหนือของซีเรีย ฐานที่มั่นสำคัญของกลุ่มรัฐอิสลาม
ทั้งนักรบญิฮัด และนักเคลื่อนไหวที่ขึ้นตรงต่อองค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน “ซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมนไรต์ส” ซึ่งมีจุดยืนเป็นปรปักษ์ต่อรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดแห่งซีเรีย ต่างชี้ว่าเครื่องบินรบลำนี้ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธต่อสู้อากาศยาน
อย่างไรก็ตาม กองทัพสหรัฐฯ เมินเฉยต่อคำกล่าวอ้างขององค์กรนี้ พร้อมระบุว่ามี “หลักฐานชี้ชัดว่า กลุ่ม (ไอเอส) ไม่ได้ยิงอากาศยานลำดังกล่าวตก”
แม้ว่ากองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ควบคุมดูแลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเหนืออิรักและซีเรีย ของกลุ่มชาติพันธมิตร จะไม่ได้ชี้แจงว่าเครื่องบินรบลำนี้ “ตกลงมา” ได้อย่างไร แต่ยืนยันว่ากลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามได้จับตัวนักบินชาวจอร์แดน ที่ควบคุมอากาศยานลำที่หายไปไว้เป็นตัวประกันจริง
เหตุเครื่องบินตกครั้งนี้นับเป็นครั้งแรก ที่มีเครื่องบินรบของกลุ่มชาติพันธมิตรสูญหายไปนับตั้งแต่การโจมตีทางอากาศในซีเรียเปิดฉากขึ้นเมื่อเดือนกันยายน และนับเป็นชัยชนะในการโฆษณาชวนเชื่อครั้งยิ่งใหญ่ของกลุ่มหัวรุนแรงมุสลิมสุหนี่กลุ่มนี้
ทั้งนี้ กลุ่มชาติพันธมิตรได้ส่งฝูงบินรบออกดำเนินปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทั่วเมืองรอกเกาะห์ เป็นประจำ เนื่องจากในทางพฤตินัยแล้ว เมืองนี้ถือเป็นเมืองหลวงของกลุ่มไอเอส ซึ่งประกาศสถาปนาการปกครองแบบกาหลิบอิสลาม ในพื้นที่อันกว้างใหญ่ของอิรักและซีเรีย นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
กลุ่มไอเอสได้เผยแพร่ภาพลงบนเว็บไซต์ของกลุ่มนักรบญิฮัด เพื่อโอ้อวดว่า นักรบไอเอสสามารถจับนักบินเป็นตัวประกันได้
ในบรรดาภาพถ่ายหลายใบที่เผยแพร่ออกมานั้น มีใบหนึ่งเป็นภาพนักบินสวมเสื้อเชิร์ตขาว ถูกสมาชิกกลุ่มติดอาวุธ 4 คนหิ้วตัวออกมาจากหนองน้ำ ขณะที่ภาพถ่ายอีกใบเผยให้เห็นชายคนนี้ยืนตกอยู่ในวงล้อมของสมาชิกกลุ่มติดอาวุธราวสิบคน
นอกจากนี้ ยังมีภาพถ่ายบัตรข้าราชการทหารของนักบินผู้นี้ ซึ่งว่าเขาคือ ร.ท.มาอัซ อัล-คัซซาสเบห์ เกิดเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ปี 1988
กลุ่มนักรบญิฮัดหัวรุนแรงอ้างว่าเป็นผู้ยิงเครื่องบินรบลำนี้ตกลงมาด้วยขีปนาวุธตรวจจับความร้อน
ภาพถ่ายเหล่านี้ซึ่งถูกเผยแพร่ออกไปโดยบรรดาสาวกไอเอส ในช่วงหลังเครื่องบินตกใหม่ๆ เผยให้เห็นประทุนของเครื่องบินขับไล่ F-16 ที่มีลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
ยูสเซฟ พ่อของนักบินผู้เคราะห์ร้ายให้สัมภาษณ์กับสื่อจอร์แดนว่า ครอบครัวรับทราบข่าวลูกชายถูกจับเป็นตัวประกันจากกองทัพจอร์แดนแล้ว และกองทัพจอร์แดนให้สัญญาว่า “กำลังหาทางช่วยชีวิตเขา” และสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดนก็ทรงเฝ้าติดตามสถานการณ์
นักเคลื่อนไหวคนหนึ่งในเมืองรอกเกาะห์เผยว่า กลุ่มติดอาวุธไอเอสกำลังถกเถียงกันว่าจะทำอย่างไรกับนักบินคนนี้ดี
นาแอล มุสตาฟา ระบุกับเอเอฟพีผ่านทางอินเทอร์เน็ตว่า “พวกเชเชนอยากให้ฆ่านักบินทิ้ง แต่พวกนักรบอิรักอยากให้เก็บเขาไว้ก่อน ... บางครั้งพวกเขาก็ตกลงกันไม่ลงตัวว่าใครควรเป็นผู้มีอำนาจสั่งการในกลุ่มพวกเขา”
อย่างไรก็ตาม ชะตากรรมของพลเมืองชาวจอร์แดนผู้นี้จะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของชูเราะห์ หรือคณะที่ปรึกษาซึ่งเป็นตัวแทนสมาชิกหลากหลายเชื้อชาติในกลุ่มไอเอส กลุ่มหัวรุนแรงที่กระทำความชั่วร้ายเลวทรามอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นการก่อเหตุสังหารหมู่ และการฆ่าตัดศีรษะโชว์คนทั่วโลกผ่านคลิปวีดีโอ
ทางด้าน บัน คีมูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ออกมาแสดงความกังวล พร้อมทั้งวิงวอนให้กลุ่มติดอาวุธที่จับตัวนักบินไป ปฏิบัติต่อเขาอย่างมีมนุษยธรรม
ทางฝ่าย ฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษได้ทวีตข้อความให้กำลังใจนักบินผู้นี้ โดยระบุว่า “(เรา) เป็นห่วงนักบินชาวจอร์แดนที่ถูก (ไอเอส) จับตัวไป เราขอยืนหยัดเคียงข้างจอร์แดน ในยามยากเช่นนี้”
ทั้งนี้ จอร์แดนคือหนึ่งในหลายประเทศที่กระโดดเข้าร่วมกลุ่มชาติพันธมิตรภายใต้การนำของ สหรัฐฯ เพื่อดำเนินปฏิบัติการโจมตีกลุ่มไอเอสทางอากาศ หลังนักรบญิฮัดกลุ่มนี้บุกยึดครองดินแดนอันกว้างใหญ่ในซีเรียและอิรัก
ขณะที่บรรดาประเทศสมาชิกสันนิบาตอาหรับ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จอร์แดน และบาห์เรน กำลังดำเนินปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรีย เคียงบ่าเคียงไหล่กับสหรัฐฯ อยู่นั้น ออสเตรเลีย เบลเยียม อังกฤษ แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ ก็ร่วมภารกิจปราบปรามในน่านฟ้าอิรัก