รอยเตอร์ - กองกำลังความมั่นคงของฝรั่งเศส ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยตามสถานที่สาธารณะต่างๆ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสเมื่อวันอังคาร (23 ธ.ค.) หลังเกิดเหตุความรุนแรง 3 เหตุการณ์ใน 3 วัน โดย 2 ในนั้นเป็นการขับรถยนต์พุ่งชนคนเดินถนน จนมีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บรวมกว่า 30 คน กระพือความกังวลต่อปฏิบัติการโจมตีของพวกอิสลามิสต์หัวรุนแรง
เมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ (22 ธ.ค.) ชายคนหนึ่งขับรถตู้เข้าใส่ฝูงชนกลางตลาดคริสต์มาส ในเมืองนองต์ ทางตะวันตกของฝรั่งเศส ส่งผลให้ชาวบ้านที่ออกมาจับจ่ายซื้อของก่อนเทศกาล ได้รับบาดเจ็บ 10 คน ก่อนที่หนึ่งในเหยื่อ ชายวัย 25 ปีจะเสียชีวิตในเวลาต่อมาเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว ขณะที่ผู้ก่อเหตุไม่เป็นอะไรมากและกำลังถูกตำรวจสอบปากคำ
เหตุการณ์ในเมืองนองต์เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันตามหลังเหตุโจมตี 2 ครั้งไล่เลี่ยกันเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ผ่านมา ได้แก่ กรณีคนขับรถพุ่งชนคนเดินถนนในเมืองดิฌง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 13 รายเมื่อวันเสาร์ (20 ธ.ค.) และคดีชายอีกคนถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังถือมีดไล่แทงตำรวจในเมือง ฌู-เลส์-ตูร์ ทางภาคกลางของประเทศ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคดีไม่มีผู้เสียชีวิต
“สิ่งที่เราเห็นจากเหตุการณ์ในดิฌงและนองต์คือพวกมันกำลังสร้างปฏิกิริยาลอกเลียนแบบ” มานูเอล วาลส์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสกล่าว หลังจากสั่งการเสริมกำลังทหารอีก 200 ถึง 300 นายเข้าประจำการลาดตระเวนในพื้นที่สาธารณะต่างๆ อย่างเช่นถนนฌองป์เอลิเซ และย่านชอปปิ้งหลักๆ ของเมือง จากเดิมที่มีทหารถูกส่งเข้าประจำการเพื่อลาดตระเวณอยู่ก่อนแล้ว 780 นาย
ฝรั่งเศสอยู่ภายใต้ระดับเตือนภัยขั้นสูงอยู่แล้ว หลังจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา กลุ่มนักรบเรียกร้องสมาชิกโจมตีพลเรือนและผลประโยชน์ของแดนน้ำหอม ตอบโต้กรณีปฏิบัติการทางทหารของฝรั่งเศสที่เล่นงานป้อมปราการของพวกอิสลามิสต์ในตะวันออกกลางและแอฟริกา
อัยการเปิดสืบสวนกรณีต้องสงสัยก่อการร้ายสำหรับการโจมตีเหตุการณ์แรก หลังจากตรวจค้นพบสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า “คำสั่งเสียทางศาสนา” ที่เขียนด้วยลายมือซึ่งผู้ต้องสงสัยวิงวอนขอพระอัลเลาะห์มอบความเข้มแข็งแก่เขา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ได้จัดการกับอีก 2 เหตุการณ์ในรูปแบบคดีก่อการร้าย ด้วยเห็นว่ามือโจมตีทั้งคู่ล้วนมีปัญหาทางจิต