เอเอฟพี - นักท่องเที่ยวหลายล้านคนในกรุงปารีสจะสามารถชอปปิ้งได้ตลอดทั้งสัปดาห์ หากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝรั่งเศสผ่านชุดแผนปฏิรูปในวันนี้ (16 ก.พ.) ซึ่งกำลังตกเป็นข้อถกเถียง และถูกมองว่าเป็นกุญแจสำคัญที่จะทลายภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองของประเทศนี้
บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะทำการโหวตชุดมาตรการดังกล่าวที่ก่อให้เกิดความแตกแยกอย่างสูง ที่ร่างขึ้นมาโดย เอมมานูเอล มาครอน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังหนุ่มไฟแรงสูงที่ผันตัวมาจากนายธนาคาร ซึ่งระบุว่าเขาถูกข่มขู่เอาชีวิตจากเรื่องแผนปฏิรูปชุดนี้
ขุนคลังวัย 37 ปีคนนี้ให้เหตุผลว่า แผนปฏิรูปนี้เป็นหนทางเดียวที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของยูโรโซน แต่เขาเผชิญกับการคัดค้านและการโจมตีต่างๆ แม้กระทั่งจากพวกพนักงานออฟฟิศอย่างเช่น พวกพนักงานรับรองเอกสาร ที่ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างค่าธรรมเนียมของพวกเขา
กฎหมายฉบับนี้ “มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของเราซึ่งส่งเสริมค้ำจุน และปกป้องอาชีพต่างๆ ในเวลาเดียวกัน” นายกรัฐมนตรีมานูเอล วาลส์ กล่าวก่อนการลงมติ ขณะทีฝรั่งเศสกำลังดิ้นรนต่อสู้กับอัตราการว่างงานที่สูงลิ่ว
สาระสำคัญของแพกเกจปฏิรูปนี้คือเพื่อเพิ่มจำนวนของวันอาทิตย์ที่ร้านค้าได้รับอนุญาตให้เปิดมากสุด 5 วันต่อปีเป็น 12 วันต่อปี
ในบางพื้นที่ที่ถูกจัดว่าเป็น “พื้นที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ในกรุงปารีส, ฌอง-เอลิเซ, แซ็ง-แฌร์แม็ง, ถนนเอาส์มันน์ (Boulevard Haussmann) ซึ่งมีห้างสรรพสินค้าของเมืองหลวงแห่งนี้ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ ร้านค้าจะสามารถเปิดได้ทุกวันอาทิตย์
ร้านค้าในย่านดังกล่าวซึ่งก็จะถูกสร้างขึ้นในเมืองกอนเนและเมืองนีซของเขตเฟรนช์ริวีเอราด้วยเช่นกัน ยังจะสามารถเปิดจนถึงเที่ยงคืนตลอด 7 วันต่อสัปดาห์
ลูกจ้างที่ทำงานระหว่าง 09.00 น.ถึงเที่ยงคืนจะได้รับค่าตอบแทนสองเท่า รวมถึงค่าเดินทางไป-กลับบ้าน และค่าดูแลบุตรทุกอย่างนายจ้างจะเป็นคนจ่ายให้
ภายใต้แผนปฏิรูปชุดนี้ ปารีสกำลังพยายามที่จะเสริมสร้างชื่อเสียงของตนเองในฐานะจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของโลก
“เราต้องการให้นักท่องเที่ยวหลายล้ายคนโดยเฉพาะชาวจีนที่เข้ามายังเมืองหลวงแห่งนี้จากเราไป และไปเดินชอปปิ้งในกรุงลอนดอนในวันอาทิตย์งั้นหรือ” วาลส์เอ่ยถามในการให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม อานน์ อิดัลโก นายกเทศมนตรีกรุงปารีสหัวสังคมนิยม คัดค้านการเพิ่มวันเปิดร้านวันอาทิตย์อย่างแรงกล้า และอธิบายนโยบายดังกล่าวว่าเป็น “ก้าวถอยหลังสำหรับประชาธิปไตย”