เอเอฟพี - ประธานสหพันธ์อุตสาหกรรมผู้ทรงอิทธิพลของเมืองเบียร์วันนี้ (23 ธ.ค.) ออกมากล่าวประณามขบวนการต่อต้านอิสลามในเยอรมนี พร้อมชี้ว่า ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปแห่งนี้กำลังต้องการผู้อพยพเพิ่มขึ้น เพื่อรักษาศักยภาพในการแข่งขัน อีกทั้งควรเปิดพรมแดนต้อนรับผู้แสวงหาที่พักพิงให้ขึ้นกว่าเดิม
อูลริช กริลโล ประธานสหพันธ์อุตสาหกรรมเยอรมันกล่าวว่า การถือกำเนิดของ “ขบวนการชาวยุโรปผู้รักชาติ เพื่อต่อต้านการเปลี่ยนโลกตะวันตกให้เป็นอิสลาม” (PEGIDA) ซึ่งจัดการเดินขบวนประท้วงเป็นประจำทุกสัปดาห์ กำลังบ่อนทำลายผลประโยชน์ และค่านิยมของประเทศ
เขาให้สัมภาษณ์สำนักข่าวดีพีเอของเยอรมันว่า “ประเทศของเราเป็นดินแดนที่ต้อนรับผู้อพยพมาเนิ่นนาน และจะต้องเป็นเช่นนั้นต่อไป”
“ในฐานะประเทศที่เจริญแล้ว และเป็นประเทศของชาวคริสต์ที่พร้อมจะหยิบยื่นความรักให้แก่เพื่อนมนุษย์ ประเทศของเราควรอ้าแขนรับผู้ลี้ภัยเพิ่มขึ้นอีก”
กริลโลได้กล่าวโจมตีการประท้วงของ PEGIDA พร้อมกับชี้ว่า ผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมเป็นพวก “นีโอนาซี (กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อฟื้นคืนลัทธินาซี) และเป็นพวกหวาดกลัวชาวต่างชาติ” ขณะที่ผู้จัดการชุมนุมอธิบายว่า การประท้วงเหล่านี้เป็นการเแสดงพลังของชนชั้นรากหญ้า
เขากล่าวว่า ขบวนการดังกล่าวกำลังพยายามฉวยจังหวะช่วงที่คนรู้สึกหวาดกลัวการก่อการร้ายของกลุ่มอิสลามิสต์ “เพื่อสาดโคลนใส่ทุกคนที่นับถืออิสลาม” ซึ่งเขาบอกว่า เป็นสิ่งที่ “ยอมรับไม่ได้”
ทั้งนี้ สหพันธ์อุตสาหกรรมเยอรมันของกริลโล นั้นเป็นองค์กรผู้รักษาผลประโยชน์ทางการเมืองของบริษัทเยอรมันกว่า 100,000 เจ้า ที่ว่าจ้างประชาชนราว 8 ล้านคน
เขาชี้ว่า เยอรมนี ซึ่งประชากรกำลังแก่ตัวอย่างรวดเร็ว ต้องการคลื่นผู้อพยพที่มีคุณสมบัติจำนวนมหาศาลเข้ามาส่งเสริมเศรษฐกิจ และระบบสวัสดิการสังคม
เขากล่าวว่า “เมื่อพิจารณาถึงพัฒนาการด้านประชากรของเรา การเปิดรับผู้อพยพจะช่วยรับประกันว่า เศรษฐกิจของเราจะยิ่งเติบโต และประเทศจะเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้ เขายังกระตุ้นให้บรรดาผู้นำทางการเมืองทุ่มเทความพยายามต่อต้านขบวนการ PEGIDA ให้มากขึ้น
เขากล่าวว่า “นักการเมืองต้องใช้ความพยายามทำให้พลเมืองมองเห็น (ว่าผู้อพยพคือ) โอกาส และขจัดความกลัว (ชาวต่างชาติ) ให้มากกว่านี้”
เมื่อค่ำวานนี้ (22) ที่เมืองเดรสเดนทางภาคตะวันออกของประเทศ มีประชากร 17,500 คน เข้าร่วมการเดินขบวนของ PEGIDA เพื่อต่อต้าน “การเปลี่ยน (เยอรมนี) ให้เป็นดินแดนแห่งอิสลาม” ซึ่งนับเป็นการเดินขบวนครั้งที่ 10 ในรอบหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่มีประชาชนกลุ่มเล็กๆ ร่วมกันแสดงพลังแบบเดียวกันในอีก 3 เมืองทางภาคตะวันตกของเยอรมนี
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านขบวนการ PEGIDA ประมาณ 4,500 คนออกมาเดินขบวนพร้อมเปล่งเสียงตะโกนสโลแกนว่า “เดรสเดนเป็นเมืองปลอดจากนาซี” พร้อมกับเน้นย้ำว่า ไม่มีพื้นที่สำหรับพวกเหยียดเชื้อชาติ และพวกเกลียดชังคนต่างชาติ ในประเทศที่มีประวัติฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวแห่งนี้
นักการเมืองที่สังกัดพรรคใหญ่ๆ ต่างตกตะลึงกับการลุกฮือของขบวนการชาตินิยมฝ่ายขวา ที่ออกมาแสดงความโกรธแค้นต่อระบบคัดกรองผู้อพยพ และผู้แสวงหาที่พักพิง ซึ่งพวกเขามองว่าไร้ประสิทธิภาพ
ขบวนการนี้เกิดขึ้นในช่วงที่เยอรมนีกลายเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งที่ผู้แสวงหาที่พักพิงใฝ่ฝันจะข้ามน้ำข้ามทะเลเข้าไปขอลี้ภัย และขยับขึ้นเป็นที่หมายอันดับสองในใจของผู้อพยพ ที่กำลังมองหาที่ตั้งรกราก รองลงมาจากสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม PEGIDA ระบุว่า จะไม่มีการประท้วงในวันจันทร์หน้า (29) ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อระหว่างเทศกาลคริสต์มาสกับวันขึ้นปีใหม่ เพื่อให้ตำรวจที่วางกำลังรักษาความสงบในการประท้วงได้หยุดพักผ่อน