เอเจนซีส์/เอเอฟพี - เมื่อวานนี้ (22 ธ.ค.) กระทรวงต่างประเทศเม็กซิโกประกาศถึงความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯและเม็กซิโกด้วยการให้หน่วยงาน FBI สหรัฐฯ เข้ามามีส่วนร่วมมือสอบสวนคดีการหายตัวไปของนักศึกษาฝึกหัดครูเม็กซิกันจำนวน 43 คนหลังจากได้รับข้อเสนอจากแอนโธนี เวน (Anthony Wayne) เอกอัคราชทูตสหรัฐฯประจำเม็กซิโกต่อรัฐบาลท้องถิ่นรัฐเกอร์เรโร ภายใต้กรอบข้อตกลง “Vaqueiro" ของทั้งสองชาติ หลังจากครอบครัวเหยื่อนักศึกษาประกาศจะยังเดินหน้าประท้วงหาความยุติธรรมให้แก่พวกเขา
voxxi สื่อออนไลน์สหรัฐฯ เพื่อชนกลุ่มน้อยละตินอเมริกันในสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (22) ว่า มีรายงานว่าหน่วยงาน FBI สหรัฐฯ เริ่มต้นสอบสวนคดีนักศึกษาฝึกหัดครูจำนวน 43 คนหายตัวหลังเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มชายปิดหน้าในวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมาในเมืองอิกวาลา (Iguala) รัฐเกอร์เรโร ตอนใต้ของเม็กซิโก ผ่านกรอบความร่วมมือ “Vaqueiro” ระหว่างเม็กซิโกและสหรัฐฯ ที่ทำขึ้นในปี 2009 เพื่อมุ่งทำสงครามยาเสพติด
ทาง voxxi รายงานว่า การเข้ามาสางคดีนี้ของ FBI อาจทำให้เกิดความหวังใหม่ และทำให้เม็กซิโกลดการประจันหน้า และผู้ปกครองบรรดานักศึกษายังคงมีความหวังจะยังพบบุตรหลานพวกเขาในสภาพมีชีวิต โดยเอเอฟพีรายงานเมื่อวานนี้ว่า กลุ่มผู้ปกครองของนักศึกษาทั้ง 43 คนประกาศจะประท้วงอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการหยุดฉลอง “ไม่มีวันหยุดพักผ่อน ไม่มีวันเทศกาลคริสมาส หรือวันฉลองขึ้นปีใหม่ มีแต่วันแห่งความพยายามทวงหาความยุติธรรม” เมลิตัน ออเตกา (Meliton Ortega) ผู้ปกครอง 1 ในนักศึกษาสูญหายประกาศ
โดยกลุ่มผู้ปกครองวางแผนที่จะเริ่มประท้วงทั้งในวันคริสต์มาสไปจนถึงวันที่ 26 ธันว่าคม และวันขึ้นปีใหม่ที่กรุงเม็กซิโกซิตี ทั้งนี้ในเดือนที่ผ่านมารัฐบาลเม็กซิโกประกาศว่านักศึกษาเหล่านี้ถูกสังหารหมู่ และร่างถูกเผาทำลายหลักฐาน ซึ่งมีร่างผู้เสียชีวิต 1 คนจากจำนวนทั้งหมด 43 คนที่ถูกเผาจนดำเป็นเถ้าถูกพบ และผลพิสูจน์ดีเอ็นเอยืนยันว่าเป็น 1 ใน 43 คนที่สูญหาย
และสื่ออนไลน์สหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมว่า ในการค้นหานักศึกษา 43 คนที่สูญหาย มีการค้นพบหลุมศพหมู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่ใช่ตำรวจเม็กซิกันที่พบหลุมฝังศพหมู่ที่รัฐเกอร์เรโร แต่เป็นกลุ่มอาสสมัคร “Union of People & Organizations of Guerrero” ที่สามารถค้นพบหลุมฝั่งศพหมู่จำนวนมากกว่า 17 หลุมในทางรัฐตอนใต้ของเม็กซิโก
ด้านเซอร์จิโอ อัลโคเซอร์ (Sergio Alcocer) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงต่างประเทศเม็กซิโกกล่าวว่า อัยการสูงสุดเม็กซิโก เฆซูส มูริลโญ การาม ได้ยืนยันการเข้ามาสืบคดีของหน่วยงาน FBI สหรัฐฯ เพื่อช่วยแกะรอยการหายตัวของเหล่านักศึกษาทั้ง 43 คนจาก Ayotzinapa ตั้งแต่เริ่มต้น แต่ยังไม่มีการเปิดเผยถึงความก้าวหน้าในการสอบสวนในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม การประท้วงรัฐบาลเม็กซิโกยังคงมีอย่างต่อเนื่องทั้งในรัฐเกอร์เรโร รวมไปถึงกรุงเม็กซิโกซิตี ที่บางครั้งมีความรุนแรงเกิดขึ้นจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ปราบจลาจล
