เอเจนซีส์/เอเอฟพี- หลังจากพบนักศึกษาฝึกหัดครูจากเมืองอิกวาลา(Iguala) รัฐเกร์เรโร ทางตอนใต้ของเม็กซิโกจากจำนวนทั้งหมด 57 คนที่ได้หายไปในวันศุกร์(27 กันยายน) และวันเสาร์(27) กันยายน)ในการประท้วงเพื่อเรียกร้องการปฎิรูปการศึกษา สืบเนื่องมาจากปัญหานโยบายการศึกษาเม็กซิกันที่ปรับให้ค่าเทอมที่มีอัตราสูงขึ้น ส่งผลทำให้เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นและทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน และบาดเจ็บอีก 25 คน และจนกระทั่งล่าสุดเมื่อวานนี้(1)ยังคงมีนักศึกษาครูสูญหายอยู่อีก 43 คน
การประท้วงเริ่มต้นตั้งแต่วันอังคาร(23 กันยายน)ของบรรดานักศึกษาที่เดินขบวนไปตามถนนสายต่างๆใน Chilpancingo เมืองเอกของ รัฐเกร์เรโร และการประท้วงเริ่มเป็นจลาจลในวันศุกร์((27 กันยายน) และวันเสาร์(27) กันยายน)ต่อเนื่อง เมื่อบรรดานักศึกษาฝึกหัดครูเหล่านี้ได้ยึดรถบัส และทุบกระจกรัฐสภา ส่งผลทำให้เกิดการตอบโต้จากตำรวจท้องถิ่นเม็กซิโก และมีผู้เสียชีวิต 6 คน บาดเจ็บ 25 คน รวมไปถึงสูญหาย 57 คน
ทั้งนี้ อีนากี แบลนโก(Inaky Blanco )อัยการเม็กซิโกกล่าวว่า ล่าสุดมีรายงานพบว่านักศึกษาที่สูญหายจากทั้งหมด มี 14 คนกลับมาที่บ้านของพวกเขา และที่วิทยาลัยฝึกหัดครู จึงทำให้ยอดนัศึกษาที่ยังสูญหายในวันพุธ(1)อยู่ที่ 43 คน ซึ่งในวันเดียวกันนั้นเอเอฟพีรายงานว่า มีญาติ 9 คนของนักศึกษาที่สูญหายออกตระเวนเคาะประตูบ้านทุกหลังในเมืองอิกวาลา พร้อมแจกจ่ายรูปเพื่อหวังว่าจะมีช่องทางตามหานักศึกษาเหล่านั้น โดยทั้งหมดแบ่งเป็น 3 กลุ่มที่แต่ละกลุ่มได้รับการคุ้มกันจากทหารและตำรวจจำนวน 20 นายตระเวนไปแต่ละบ้าน
“เราจะทำตามค้นหาจนกว่าจะพบเด็กเหล่านั้น” อีพิฟานนิโอ โรมูอัลโด (Epifanio Romualdo) เกษตรกรวัย 53 ปีให้สัมภาษณ์ในขณะออกตามหาบุตรชายวัย 19ปีของเขา
และหลังจากเหตุนองเลือดระหว่างนักศึกษาเม็กซิกันและตำรวจแดนจังโก้ ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 22 นายจากเมืองอิกวาลาถูกจับกุมในวันจันทร์(29)ในข้อหา “ฆาตกรรม” และจากความรุนแรงล่าสุดทำให้มีการเรียกร้องให้มีการเร่งรัดกระบวนการยุติธรรมให้ฉับไวขึ้น ซึ่งเม็กซิโกถือเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความรุนแรงจากเครือข่ายค้ายาเสพติด
เหตุปะทะเริ่มต้นในวันศุกร์(27 กันยายน)และวันเสาร์(28 กันยายน)เมื่อตำรวจเม็กซิกันเข้าสลายม็อบผู้ประท้วงที่ได้ลุกฮือยึดรถบัสจำนวนหนึ่งเพื่อประท้วงรัฐบาล และภายหลังเจ้าหน้าที่ได้สาดกระสุนเข้าใส่รถบัส 3 คันที่ถูกยึดจากบรรดานักศึกษาจากวิทยาลัยฝึกหัดครูอาโยตซินาปา ( Ayotzinapa)ที่ได้ขึ้นชื่อเป็นกลุ่มผู้ประท้วงชอบใช้ความรุนแรง ส่งผลให้มีนักศึกษา 3 คนเสียชีวิต และอีก 3 คนเป็นผู้โดยสารชาวเม็กซิโกบนรถที่โดนลูกหลง
นอกจากนี้สื่อท้องถิ่นเม็กซิโกรายงานเพิ่มเติมว่า มีนักศึกษาจำนวนหนึ่งใช้รถบัสคันที่ 4 สามารถหลบหนีไปได้จากจุดปะทะหลังจากที่ตำรวจได้เริ่มยิงปืนขึ้นฟ้า
ทั้งนี้นักศึกษาที่รอดชีวิตจากเหตุตำรวจยิงรถบัสได้ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า เขาเห็นตำรวจนำตัวเพื่อนนักศึกษาร่วม 30-40คนนั่งไปในรถสายตรวจหลังเกิดเหตุ และนักศึกษากลุ่มนั้นยังหายตัวไปจนถึงขณะนี้
นักศึกษาจากวิทยาลัยฝึกหัดครูอาโยตซินาปามีกำหนดเข้าร่วมกับกลุ่มนักเรียนนักศึกษากลุ่มอื่นในเม็กซิโก ซิตี ในวันอังคารเพื่อร่วมการประท้วงระดับประเทศเพื่อการปฎิรูประบบการศึกษาเม็กซิโก พร้อมกับการเดินขบวนรำลึกในวันที่ 2 ตุลาคม เพื่อระลึกถึงถึงเพื่อนนักศึกษาที่ถูกเจ้าหน้าที่เม็กซิโกสังหารหมู่ในวันที่ 2 ตุลาคม 1968 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ประท้วงใหญ่ที่มีการฆ่าหมู่นักศึกษาและชาวเม็กซิกันถึง 300 คนที่ Tlatelolco Plaza จากน้ำมือกองทัพเม็กซิโกสนธิกำลังกับกองกำลังตำรวจ
จากรายงานพบว่า รัฐเกร์เรโรถือเป็นรัฐหนึ่งที่จัดว่ายากจนที่สุดในเม็กซิโก และประสบปัญหาความไม่สงบเรื่อยมาในไม่กี่ปีมานี้ และทั้งรัฐเกร์เรโร รวมไปถึงรัฐมิโชอากัง เป็นฐานที่มั่นของกองกำลังท้องถิ่นติดอาวุธทำหน้าที่คอยตรวจตราความปลอดภัยให้กับชุมชนในพื้นที่จากปัญหาความรุนแรงที่เกิดจากเครือข่ายยาเสพติด นอกจากนี้ในปี 2013 รัฐเกร์เรโรยังมีอัตราคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นสูงที่สุดในประเทศ
ในวันอังคาร(29) อัยการเม็กซิโกกลางประกาศดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ทหารเม็กซิกัน 3 นาย ข้อหา “ฆาตกรรมผู้ต้องสงสัยแก๊งยาเสฟติด 22 คน” ทางใต้ของเม็กซิโก ซิตี ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากที่ทหารเม็กซิโกหน่วยหนึ่งที่อยู่ในระหว่างการลาดตระเวน พบเห็นโกดังที่มีมือปืนคุ้มกันอย่างแน่นหนาในเมืองTlataya และถูกกลุ่มคนร้ายเปิดฉากยิงเข้าใส่ เป็นผลทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องเปิดฉากยิงตอบโต้ในที่สุด และจากเหตุการณ์นั้นทำให้เจ้าหน้าที่ทหาร 1 นายได้รับบาดเจ็บ และสามารถสังหารสมาชิกแก๊งอาชญากรรมจำนวน 21 คน รวมไปถึงหญิงชาวเม็กซิโกอีก 1 คน และยังสามารถยึดปืนไรเฟิลอัตโนมัติได้ 22 กระบอก ปืนยาว 2 กระบอก ปืนพก 13 กระบอก ระเบิดมือ 3 ลูก และกระสุนปืนอีกเป็นจำนวนมาก