เอเจนซีส์ - ชาเนกา ทอมป์สัน(Shaneka Thompson) วัย 29 ปี ผู้เชี่ยวชาญประกันสุขภาพประจำหน่วยงานการบริหารสุขภาพของทหารผ่านศึก หรือ VHA ถูกอิสมาอิล บรินส์ลีย์ (Ismaaiyl Brinsley) วัย 28 ปี อดีตแฟนหนุ่มยิงบริเวณท้องในขณะที่เธออยู่ภายในห้องพักของตนเองในบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ บรินส์ลีย์จะลงมือสังหารเหวินเจี้ยน หลิว ( Wenjian Liu) และ ราฟาเอล มอส (Rafael Ramos)
เดลีเมล สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้(22)ว่า หลังเหตุเขย่าขวัญกลางนิวยอร์กในวันเสาร์(21) อิสมาอิล บรินส์ลีย์ (Ismaaiyl Brinsley) วัย 28 ปี จ่อยิงตำรวจนิวยอร์ก 2 นาย เหวินเจี้ยน หลิว ( Wenjian Liu) และ ราฟาเอล มอส (Rafael Ramos)ดับคาที่ในรถสายตรวจกลางวันแสกๆ ก่อนหนีไปจนมุมและยิงตัวตายในสถานีรถไฟใต้ดิน ล่าสุดพบว่า มือปืนผิวสีรายนี้ก่อเหตุยิง ชาเนกา ทอมป์สัน(Shaneka Thompson) วัย 29 ปี ผู้เชี่ยวชาญประกันสุขภาพประจำหน่วยงานการบริหารสุขภาพของทหารผ่านศึก หรือ VHA อดีตแฟนสาวที่ท้องจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่ห้องพักของเธอในบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ ก่อนที่จะขโมยโทรศัพท์มือถือของทอมป์สัน และมุ่งหน้าไปนิวยอร์กและก่อเหตุในที่สุด
เจมส์ เดลลี (James Delly) ปู่ของทอมป์สันได้ให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษว่า คาดว่าหลานสาวจะสามารถหายเป็นปกติได้ในไม่ช้า “ในขณะนี้ทอมป์สันยังไม่สามารถให้การอะไรได้ทั้งนั้น แต่คาดว่าจะสามารถหายเป็นปกติได้ในที่สุด”
ด้านตำรวจบัลติมอร์เคาน์ตีให้ข้อมูลถึงความสัมพันธ์ระหว่างทอมป์สันและมือยิงตำรวจนิวยอร์กว่า ในปีที่ผ่านมาคนทั้งคู่ได้เริ่มคบหากันก่อนที่จะแยกทาง ถึงแม้ว่าปู่ของทอมป์สันจะยืนยันไม่ทราบถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ก็ตาม และเดลลีกล่าวว่า รู้สึกตกใจที่พบว่าหลานสาวของตนเองมีความเกี่ยวพันกับมือปืนยิงตำรวจที่เป็นข่าวครึกโครมในขณะนี้
และพบว่าบรินส์ลีย์ใช้ปืนพกสีเงิน 9mm กึ่งอัตโนมัติกระบอกที่ใช้ยิงตำรวจทนิวยอร์กทั้งสองยิงอดีตแฟนสาวที่ท้องก่อนเวลาเช้าตรู่ 6.00 น.ที่อพาทเมนท์ระดับบนของทอมป์สัน โดยตำรวจพบกระสุนปืนที่ตกในอพาทเมนท์ของทอมป์สันตรงกับกระสุนที่ใช้ยิงหลิวและมอสในขณะที่คนทั้งคู่นั่งในรถสายตรวจที่มีตราตำรวจนิวยอร์กติดอยู่ด้านข้างตัวรถ
ในขณะนี้ทอมป์สันอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ไม่ได้ระบุชื่อเพื่อความปลอดภัย แต่พบว่าเธอมีอาการคงที่
สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า ตำรวจนิวยอร์กได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลในบัลติมอร์เพื่อสอบปากคำทอมป์สันถึงสาเหตุที่อาจทำให้บรินส์ลีย์เกิดความคิดสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2นาย แต่พบว่าในขณะนี้ทอมป์สันยังไม่อยู่ในสภาพพร้อมที่จะให้ปากคำใดๆ
และเป็นเพราะบรินส์ลีย์ขโมยโทรศัพท์มือถือของทอมป์สันไปหลังก่อเหตุ ทำให้ตำรวจบัลติมอร์ทราบจากระบบจีพีเอสว่าคนร้ายกำลังมุ่งหน้าไปนิวยอร์ก
สื่ออังกฤษพบว่า บรินส์ลีย์ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตราแกรม “จะติดปีให้หมู” ซึ่งหมูถือเป็นคำที่ใช้สื่อถึงการดูถูกอย่างเลวร้ายในวัฒนธรรมตะวันตก แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ตำรวจสหรัฐฯทราบถึงข้อความเหล่านี้เกือบจะเป็นช่วงวินาทีที่บรินส์ลีย์ก่อเหตุสังหารหลิวและมอส
โรเบิร์ต บอยซ์ (Robert Boyce) หัวหน้าตำรวจสืบสวนนิวยอร์กได้กล่าวถึงเหตุการณ์ตั้งแต่ทอมป์สันถูกยิงไปจนถึงการเสียชีวิตของมือยิงบรินส์ลีย์ โดยบอย์ซ์เปิดเผยว่า ก่อนที่บรินส์ลีย์จะก่อเหตุ กล้องวงจรปิดตัวหนึ่งจับภาพได้ว่ามือยิงตำรวจได้สนทนากับชาย 2 คน และพบว่าบรินส์ลีย์ได้ถาม 3 ข้อกับคนทั้งคู่ #1ความเกี่ยวพันของชายทั้งคู่กับแก๊งอาชญากรรม #2ขอให้คนทั้งคู่เช็กอินสตราแกรมของบรินส์ลีย์ และ#3กล่าวกับคนทั้งคู่ว่า “ให้จับตาดูว่าผมกำลังจะทำอะไร”
และบอยซ์กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นมือยิงเดินไปทางเหนือของถนนทอมป์กินส์ ( Tompkins)ผ่านตำรวจนิวยอร์ก 2 นายที่นั่งอยู่ในรถสายตรวจ และข้ามถนนเดินย้อนกลับในฝั่งตรงกันข้าม และเดินข้ามมาทางท้ายรถตำรวจที่จอดอยู่
นอกจากนี้หัวหน้าตำรวจนิวยอร์กเปิดเผยว่า แม่ของบรินส์ลีย์ให้ข้อมูลว่า บรินส์ลีย์เป็นเด็กมีปัญหา และมีนิสัยก้าวร้าว และเธอแสดงความรู้สึกกลัวที่มีต่อลูกชายของตัวเอง “บรินส์ลีย์” และไม่ได้พบหน้าบุตรชายมา 1 เดือนแล้ว และบรินส์ลีย์ยังมีประวัติความพยายามจะปลิดชีพตนเองในอดีต โดยในรอบ 1ปีที่ผ่านมาพบชายผู้นี้พยายามปลิดชีพตนเองด้วยการแขวนคอ
และบรินส์ลีย์เคยก่อเหตุละเมิดกฏหมายถึง 19 ครั้ง พยายามจะจบชีวิตตัวเองและทั้งแม่และพี่สาวนอกสาวของบรินส์ลีย์ทั้งสองยืนยันว่าชายคนนี้เป็นพวกใช้ความรุนแรง และเคยมีประวัติโดนจำคุกที่รัฐจอร์เจียและรัฐโอไฮโอ รวมไปถึงเคยมีประวัติปัญหาด้านสุขภาพจิต