รอยเตอร์ – บัน คีมุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติกล่าวชื่นชมวันนี้ (20) ต่อบรรดาผู้ปฏิบัติงานด้วนสาธารณสุขที่ต่อสู้กับเชื้อไวรัสอีโบลา ขณะที่เขาเดินทางมาเยือนไลบีเรียและเซียร์ราลีโอนเป็นครั้งแรกภายหลังการแพร่ระบาดที่คร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 7,000 ราย
บัน แสดงความชื่นชมผู้ปฏิบัติงานท้องถิ่นและองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แต่เขาเน้นเฉพาะแพทย์จาก 3 ประทศที่เป็นศูนย์กลางของการระบาด ซึ่งล้มป่วยขณะทำการรักษาผู้ติดเชื้อ
เขาไปเยี่ยมเยือนศูนย์รักษาเชื้ออีโบลานอกกรุงฟรีทาวน์ เมืองหลวงของเซียร์ราลีโอน และรับฟัง รีเบคกา จอห์นสัน พยาบาลวัย 28 ปีบอกเล่าเรื่องที่เธอติดเชื้อไวรัสอีโบลาขณะทำการรักษาผู้ป่วยและต่อสู้รอดชีวิตกลับมาปฏิบัติงานต่อ
บัน กล่าวว่า “เราจะอยู่เคียงข้างเซียร์ราลีโอนจนกว่าการระบาดนี้จะควบคุมได้และประเทศนี้ฟื้นจากผลกระทบ” และเรียกเรื่องราวของ จอห์นสัน ว่าเป็น “ความประทับใจและแรงผลักดัน”
ในตอนนี้ เซียร์ราลีโอนมีผู้ป่วยมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ป่วยทั้งสิ้น 18,603 คน นับตั้งแต่การระบาดนี้ถูกตรวจพบเมื่อเดือนมีนาคมในป่าทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกินี หลังจากนั้นเชื้อมรณะชนิดนี้ได้แพร่กระจายไปสู่ประเทศแอฟริกาตะวันตก 6 ชาติ รวมถึงไลบีเรีย
ในสัปดาห์นี้รัฐบาลเซียร์ราลีโอนได้ดำเนินแผน “Operation Western Area Surge” เพื่อจำกัดการแพร่ระบาด ซึ่งกำลังลุกลามรุนแรงที่สุดในพื้นที่ตะวันตกนอกเมืองหลวง โดยมีบรรดาผู้ปฏิบัติงานสาธารณสุขเดินตรวจหาผู้ป่วยตามถนนทีละเส้น
หลังจากนั้น บัน ได้ไปเยือนตามสำนักงานใหญ่ของปฏิบัติการนี้ที่ดำเนินการโดยอังกฤษ และจัดการพูดคุยกับประธานาธิบดี เออร์เนสต์ ไบ โคโรมา แห่งเซียร์ราลีโอน
บัน มีกำหนดไปเยือนกินีและมาลีต่อในวันนี้ (20) หลังจากไปกานาและสำนักงานใหญ่ต่างๆ ของภารกิจตอบสนองเชื้อไวรัสอีโบลาของยูเอ็นเพื่อตอกย้ำถึงความสำคัญของของการต่อสู้กับเชื้อไวรัสอีโบลาในเวลาที่มันมีแนวโน้มที่จะตกหายไปจากพาดหัวข่าว
บัน ระบุว่า “อีโบลายังคงเป็นวิกฤตโลก และเราต้องหยุดยั้งมันที่ต้นตอ เป้าหมายเดียวที่ยอมรับได้คืออัตราผู้ป่วยเท่ากับศูนย์ “ และกล่าวต่อว่า “งานของเราคือการป้องกันไม่ให้อีโบลากลายเป็นโรคประจำถิ่นในภูมิภาคนี้”