รอยเตอร์ - สหประชาชาติเผยในวันพฤหัสบดี (6 พ.ย.) จำนวนผู้ติดเชื้ออีโบลาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในเซียร์ราลีโอน อันเนื่องจากมาจากศูนย์รักษาไม่เพียงพอ ขณะที่ปัญหาขาดแคลนอาหารและสิ่งของจำเป็นก็บีบให้ผู้คนบางส่วนต้องหลบหนีออกจากพื้นที่กักกัน ทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดทำได้ยากขึ้นไปอีก
คณะทำงานฉุกเฉินเพื่อรับมือกับเชื้อไวรัสอีโบลาแห่งสหประชาชาติ (UNMEER) ระบุในรายงานประจำสัปดาห์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสมรณะในเซียร์ราลีโอนอยู่ที่ 1,062 คน ด้วยอีโบลายังคงแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในพื้นที่ทางตะวันตกรอบๆกรุงฟรีทาวน์
เซียร์ราลีโอนโผล่ขึ้นมาเป็นจุดสำคัญแห่งความกังวลของการแพร่ระบาดของอีโบลาครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ขณะที่องค์การอนามัยโลกเผยเมื่อวันพุธ (5 พ.ย.) ว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคติดต่อนี้แล้ว 4,818 คน และจำนวนผู้ติดเชื้อกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในเซียร์ราลีโอน สวนทางกลับไลบีเรีย ที่การแพร่ระบาดช้าลงแล้ว ส่วนกินี ถือว่าทรงตัว
UNMEER กล่าวว่า เซียร์ราลีโอนมีศูนย์รักษาอีโบลา 4 แห่ง มีเตียงรองรับผู้ป่วยรวมกัน 288 เตียงและจนถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน กำลังให้การรักษาผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ 196 คน อย่างไรก็ตามคณะทำงานของยูเอ็น สงสัยว่ายังมีผู้ติดเชื้ออีกราวๆร้อยละ 50 ทั่วเซียร์ราลีโอนที่ยังไม่ได้รายงานเข้ามา
คณะทำงานฉุกเฉินของสหประชาชาติบอกด้วยว่า มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องได้รับการสนับสนุนเตียงผู้ป่วยเพิ่มเติมให้ได้เป็น 1,864 เตียงในสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม ขณะที่ศูนย์รักษาแห่งใหม่ที่วางแผนเอาไว้สามารถรองรับผู้ป่วยแค่ 1,133 เตียงเท่านั้น ดังนั้นจึงขาดอีกถึง 731 เตียง
“ปัญหาขาดแคลนเตียงคนไข้ในศูนย์รักษาอีโบลา บีบให้ทางครอบครัวต้องดูแลผู้ป่วยเองที่บ้าน ซึ่งผู้ที่ให้การดูแลไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือเพียงพอที่จะป้องกันตนเองจากการติดเชื้อ เพราะฉะนั้นมันจึงเสี่ยงพบเห็นการติดต่อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”
นอกจากนี้แล้ว รายงานของ UNMEER ระบุด้วยว่าพบชาวบ้านจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆที่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งกักกันโรคอยู่แต่ในบ้าน โดยหลายครอบครัวพากันหลบหนีออกจากที่พักอาศัย อันเนื่องจากมาขาดแคลนอาหารและสิ่งของจำเป็นต่างๆ แต่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดใดเพิ่มเติม