วอชิงตันโพสต์/รอยเตอร์/เอพี - ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากพบศพเด็ก 8 คนถูกแทงเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่งในเมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่าพวกเขาได้ควบคุมตัวสตรีรายหนึ่งซึ่งเป็นแม่ของเหยื่อ 7 ใน 8 ศพ ฐานต้องสงสัยฆาตกรรม
คดีสะเทือนขวัญนี้สั่นสะเทือนแดนจิงโจ้อีกครั้งในเวลาห่างกันไม่กี่วัน ตามหลังโศกนาฏกรรมจับตัวประกันที่ร้านช็อกโกแลตคาเฟ่ย่านการเงินของนครซิดนีย์เป็นเวลา 16 ชั่วโมงช่วงต้นสัปดาห์ ก่อนที่คอมมานโดจะบุกเข้าไปช่วย และปิดฉากด้วยการวิสามัญฆาตกรรมคนร้าย แต่ก็มีตัวประกันผู้บริสุทธิ์ต้องสังเวยชีวิต 2 คน
สำนักข่าวเอพีรายงานโดยอ้างคำสัมภาษณ์ของ บรูโน อัสนิการ์ ตำรวจสืบสวนรัฐควีนส์แลนด์ เปิดเผยในตอนเช้าวันเสาร์(20ธ.ค.) ว่าผู้หญิงรายนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองแคนส์ ตั้งแต่วันศุกร์(19ธ.ค.) จากบาดแผลถูกแทง และเวลานี้อยู่ภายใต้การคุ้มกันของตำรวจ "เธอตื่นแล้ว มีจิตเป็นปกติและสามารถพูดจาได้" อัสริการ์บอกกับผู้สื่อข่าว "ณ ตอนนี้เรายังไม่มองหาผู้ต้องสงสัยคนอื่น"
เอพีรายงานอ้างคำบอกเล่าของตำรวจระบุว่าเหยื่อรายที่ 8 ที่ถูกแทงตายเป็นหลานของผู้หญิงรายนี้ โดยเธอถูกควบคุมตัวในฐานต้องสงสัยฆาตกรรม แต่ยังไม่มีการตั้งข้อหาใดๆ
ตำรวจไม่ได้เปิดเผยว่าเด็กเหล่านั้นเสียชีวิตอย่างไร แต่ อัสนิการ์ บอกว่าพวกเขาอยู่ระหว่างตรวจสอบมีดหลายเล่มที่พบในบ้าน ซึ่งบางทีอาจถูกใช้เป็นอาวุธในการสังหารเหยื่อที่มีอายุระหว่าง 18 เดือนถึง 14 ปี ส่วนผู้หญิงคนนี้ถูกพบในบ้านหลังเดียวกับเด็กๆ และอยู่ในสภาพที่มีบาดแผลถูกแทงบริเวณหน้าอก
รายงานข่าวระบุว่ามีคนพบศพเด็กในบ้านหลังดังกล่าวตอนเวลาประมาณ 11.20 น.ของวันศุกร์(19ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น แต่ทีมสืบสวนต้องรอเจ้าหน้าที่นิติเวชศาสตร์ปฏิบัติงานแล้วเสร็จก่อนถึงเข้าไปภายในตัวบ้านได้
นายโทนี แอบบอตต์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เรียกคดีที่เมืองแคนส์ ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ใจสลายและยอมรับว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยล้าของออสเตรเลีย
ชาวบ้านพากันจุดเทียนยืนไว้อาลัยแก่เด็กในช่วงค่ำวันศุกร์(19ธ.ค.) และเริ่มวางดอกไว้ที่สถานรำลึกชั่วคราว ทั้งที่ไม่กี่วันที่ผ่านมา ช่อดอกไม้จำนวนมากมายเพิ่งถูกนำไปวางไว้ที่สถานรำลึกชั่วคราว ใกล้ๆกับร้านลินดต์ ช็อกโกแลต คาเฟ่ สถานที่เกิดเหตุจับตัวประกันในย่านการเงินของซิดนีย์หมาดๆ
เบสซี มาเรโก เพื่อนบ้านให้สัมภาษณ์กับออสเตรเลียน บรอดคาสติง ว่าเธอเห็นผู้หญิงและเด็กจำนวนหนึ่งตอนเวลาตี 2 โดยทั้งหมดกำลังช่วยกันทำความสะอาดบ้านและนำสิ่งของไม่ต้องการไปวางไว้ริมถนน "ฉันช็อคมาก ฉันเพิ่งเห็นเธอกับเด็กๆตรงระเบียงบ้านตอนเช้ามืดนี้เอง"
สื่อมวลชนแดนจิงโจ้ระบุว่าโศกนาฏกรรมครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในการฆ่าหมู่ครอบครัวเดียวครั้งเลวร้ายที่สุดของออสเตรเลีย
