เอเอฟพี - นักรบเกือบ 200 คนจากทั้งสองฝ่ายถูกสังหารภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากที่เครือข่ายกลุ่มอัลกออิดะห์ในซีเรียเข้ายึดฐานทัพของรัฐบาล 2 แห่งในจังหวัดอิดลิบ กลุ่มสังเกตการณ์ระบุวันนี้ (16)
กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ซึ่งมีฐานอยู่ในอังกฤษแต่รวบรวมข้อมูลจากเครือข่ายนักเคลื่อนไหวและแพทย์อันกว้างขวางในพื้นที่ ระบุว่า นักรบกลุ่มอัลนุสรา ฟรอนต์ ยังได้จับกุมทหารของรัฐบาลมากกว่า 100 คนด้วย
“มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 100 คนในฝั่งของรัฐบาลและ 80 คนในฝั่งนักรบกลุ่มนี้ ซึ่งต่างถูกสังหารในการปะทะ , การทิ้งระเบิด และกับระเบิดที่วางเอาไว้” รามี อับเดล เราะห์มาน ผู้อำนวยการกลุ่ม ระบุ
เขากล่าวว่า ทหารอย่างน้อย 120 คนถูกจับไปเป็นนักโทษ และอีกราว 100 คนใช้ยานพาหนะหลบหนีไปยังตอนใต้และเดินเท้าไปสู่เมืองโมเร็กในจังหวัดฮามาที่อยู่ข้างเคียง
การยึด วาดี อัล-เดอีฟ และ ฮามิดมีดีเยห์ สองที่มั่นทางทหารที่สำคัญเมื่อวานนี้ (15) ยังทำให้นักรบญิฮาดกลุ่มนี้ได้จังหวัดทางตะวันตกเฉียงเหนือแห่งนี้มาอยู่ในการควบคุมเกือบทั้งหมด โดยนับเป็น การจู่โจมที่ทำให้รัฐบาลของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด เสียหายครั้งใหญ่
กลุ่มสังเกตการณ์ ระบุว่า นักรบญิฮาดกลุ่มนี้ได้รุกคืบสู่ฐานทั้งสองแห่งโดยร่วมมือกับสองกลุ่มกบฏอิสลามิสต์ อาห์รอร์ อัล-ชาม และ จุนด์ อัล-อัคซอ พร้อมเสริมว่า หมู่บ้านต่างๆ ละแวกนี้ก็ถูกเข้าควบคุมด้วยเช่นกัน
นี่ยังนับเป็นความพ่ายแพ้อีกครั้งหนึ่งสำหรับกลุ่มกบฏเหล่านี้ที่มีฝ่ายตะวันตกหนุนหลัง ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วถูกนักรบกลุ่มอัลนุสรา ฟรอนต์ ขับไล่ออกจากจังหวัดอิดลิบจนเกือบหมด
กองกำลังกบฏกระแสหลักเดินหน้าต่อสู้เพื่อเข้ายึดฐานที่มั่น วาดี อัล-เดอีฟ และ ฮามิดมีดีเยห์ มาเป็นเวลาราว 2 ปีแล้ว แต่แม้จะพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่เป็นผลสำเร็จ
อิดลิบเป็นหนึ่งในจังหวัดแรกๆ ที่หลุกพ้นจาการควบคุมของรัฐบาลซีเรีย ไม่นานหลังจากการปะทุขึ้นของการปฏิวัติล้มล้างรัฐบาล อัสซาด เมื่อเดือนมีนาคมปี 2011
ความขัดแย้งดังกล่าวเริ่มขึ้นขณะที่มีการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยขับไล่ อัสซาด ลงจากตำแหน่ง แต่ต่อมาพัฒนามากลายเป็นสงครามที่เต็มไปด้วยความโหดร้าย หลังจากฝ่ายรัฐบาลดำเนินการปราบปรามครั้งมโหฬาร
ประชาชนมากกว่า 200,000 คนถูกสังหารภายในเวลาเกือบ 4 ปี และราวครึ่งหนึ่งของประชากรซีเรียถูกบีบให้ต้องละทิ้งบ้านเรือนหลบหนี
