รอยเตอร์ - รายงานผลการวิจัยของธนาคารกลางจีน ที่ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ได้เห็นในวันนี้ (14 ธ.ค.) ระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนอาจจะชะลอลงมาอยู่ที่ 7.1 เปอร์เซ็นต์ในปี 2015 จากเดิมที่คาดไว้ 7.4 เปอร์เซ็นต์ อันเนื่องมาจากการหดตัวลงของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
รายงานที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของธนาคารกลางจีน ระบุว่า กระแสความต้องการสินค้าที่เพิ่มมากขึ้นทั่วโลก อาจช่วยในแง่ของการส่งออก แต่ยังไม่เพียงพอที่จะไปแก้ปัญหาผลกระทบที่เกิดจากการถดถอยของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
การส่งออกของจีนน่าจะเติบโต 6.9 เปอร์เซ็นต์ในปี 2015 เพิ่มขึ้นจากของเดิมในปีนี้ที่ทำไว้ 6.1 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่การนำเข้าก็จะพุ่งพรวดไปอยู่ที่ 5.1 เปอร์เซ็นต์ จากเดิม 1.9 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้
รายงานนี้ยังเตือนด้วยว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งถูกคาดหมายไว้ว่าจะเกิดขึ้นในปีหน้า อาจจะกระทบกับเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่
ด้านการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรอาจจะโตช้าลงไปอยู่ที่ 12.8 เปอร์เซ็นต์ในปี 2015 จากเดิม 15.5 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ขณะที่การเติบโตของค้าปลีกจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 12.2 เปอร์เซ็นต์ จากเดิม 12 เปอร์เซ็นต์ สำหรับในส่วนของเงินเฟ้อ คาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคปี 2015 น่าจะอยู่ที่ 2.2 เปอร์เซ็นต์
การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 7.3 เปอร์เซ็นต์ในช่วงไตรมาส 3 ขณะที่ตัวเลขการลงทุนในเดือนพฤศจิกายนก็แสดงให้เห็นว่า การเติบโตตลอดทั้งปีของจีนจะไปไม่ถึงเป้า 7.5 เปอร์เซ็นต์ที่ตั้งไว้ และจะกลายเป็นปีที่มีการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 24 ปี
บรรดานักเศรษฐศาสตร์ ผู้คอยให้คำปรึกษาแก่รัฐบาล ได้แนะนำให้จีนลดเป้าการเติบโตลงมาอยู่ที่ 7 เปอร์เซ็นต์ในปี 2015
ด้านสถานการณ์การจ้างงานในจีนก็ดูเหมือนจะดีขึ้นในปีหน้า เนื่องจากการขยายตัวของธุรกิจให้บริการ แม้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงก็ตาม
