เอเอฟพี - รัฐบาลผสมของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ มีแนวโน้มที่จะกวาดคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในศึกเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม โดยอาจครองที่นั่ง ส.ส.ถึง 2 ใน 3 เช่นเดิม และทำให้ฝ่ายค้านตกอยู่ในสภาพพ่ายแพ้หมดรูป ผลสำรวจล่าสุดเผยวันนี้ (11 ธ.ค.)
ผลสำรวจความคิดเห็นที่เผยแพร่โดยหนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุน พบว่า พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ของอาเบะ และพรรคโกเมอิโตะซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อาจได้ที่นั่งใน ส.ส.สูงถึง 317 จากทั้งหมด 475 ที่นั่ง ซึ่งจะทำให้รัฐบาลผสมเข้มแข็งพอที่จะผลักดันร่างกฎหมาย และยังเป็นเกราะคุ้มกันนายกรัฐมนตรี ต่อให้รัฐบาลพ่ายศึกเลือกตั้งวุฒิสภาในปี 2016 ก็ตาม
โพลของอาซาฮีระบุว่า พรรคแอลดีพีอาจได้ที่นั่งในสภาราว 290-318 ที่นั่ง ส่วนพรรคโกเมอิโตะก็น่าจะคว้ามาได้ราวๆ 29-35 ที่นั่ง
ทั้งนี้ ก่อนจะมีการประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรเมื่อเดือนที่แล้ว พรรคแอลดีพีครองที่นั่ง ส.ส.อยู่ 295 ที่นั่ง ส่วนพรรคโกเมอิโตะมีอยู่ 31 ที่นั่ง
ในส่วนของพรรคฝ่ายค้านอย่างเดโมเครติก ปาร์ตี ออฟ เจแปน (ดีพีเจ) ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ผิดหวังกับการบริหารประเทศในช่วงปี 2009-2012 น่าจะคว้าเก้าอี้ไปครองได้ราว 62 ที่นั่ง ซึ่งแม้จะมากกว่าเดิมเล็กน้อย แต่ในภาพรวมก็ยังคงไร้อำนาจต่อรองกับรัฐบาล
เสียงสนับสนุนที่อาเบะจะได้เพิ่มขึ้นมานั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกลุ่มพรรคการเมืองย่อยที่ตัดสินใจแยกกลุ่มหรือยุบพรรคไป หลังจากที่พรรคแอลดีพีชนะเลือกตั้งในปี 2012
อย่างไรก็ดี อาซาฮีชิมบุนซึ่งเป็นสื่อสายเสรีนิยม เตือนว่า มีชาวญี่ปุ่นอีกราว 40% ที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคไหน และคนกลุ่มนี้อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ผลการเลือกตั้งเปลี่ยนไปจากที่ทำนายไว้ อย่างน้อยก็ในทางทฤษฎี
ผู้สังเกตการณ์คาดว่าจะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิในวันอาทิตย์นี้ (14) ไม่มากนัก เนื่องจากคนส่วนใหญ่ไม่รู้สึกกระตือรือร้นกับการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จัดขึ้นก่อนกำหนดถึง 2 ปี
แม้จะเสื่อมศรัทธากับรัฐบาลชุดปัจจุบัน และผิดหวังกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ “อาเบะโนมิกส์” ที่ยังไม่เห็นผลชัดเจน แต่คนญี่ปุ่นส่วนมากก็ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า ซึ่งจุดนี้เองทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอย่างไรเสียชัยชนะก็ต้องตกเป็นของอาเบะ อย่างแทบไม่มีลุ้น