เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-รายงานประจำเดือนธันวาคมของกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก (โอเปก) ที่มีการเผยแพร่ในวันพุธ (10 ธ.ค.) ระบุ มีแนวโน้มที่ความต้องการของตลาดโลก ต่อน้ำมันที่ผลิตโดยชาติสมาชิกโอเปกจะลดลงจนทำสถิติ “ต่ำที่สุดในรอบ 12 ปี” ในปี 2015
รายงานของโอเปกระบุว่า จากความต้องการที่ลดลงดังกล่าว จะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันที่ผลิตโดยสมาชิกโอเปกจะลดลงถึงวันละ 300,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 28.92 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าปริมาณการผลิตวันละ 29.4 ล้านบาร์เรลของโอเปกในปี 2014 นี้
รายงานของกลุ่มโอเปกชี้ว่า แม้ความต้องการของตลาดโลกในปีหน้า ต่อน้ำมันที่ผลิตโดยชาติสมาชิกโอเปกทั้ง 12 ชาติจะลดต่ำลง แต่ความต้องการน้ำมันที่แท้จริงของโลกในปี 2015 กลับมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอีกราว 1.12 ล้านบาร์เรลต่อวันมาอยู่ที่วันละ 92.26 ล้านบาร์เรล ซึ่งนั่นหมายความว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่อยู่นอกกลุ่มโอเปกมีแนวโน้มที่จะมีบทบาทในการแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดโลกมากยิ่งขึ้นใน 12 เดือนจากนี้
ด้านอับดอลลา ซาเล็ม เอล-บาดรี เลขาธิการใหญ่ชาวลิเบียของกลุ่มโอเปกที่อยู่ในตำแหน่งมาตั้งแต่เมื่อปี 2007 กล่าวที่สำนักงานใหญ่ของกลุ่มในกรุงเวียนนา เมืองหลวงของออสเตรียว่า กลุ่มโอเปกซึ่งก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1961 จำเป็นต้องปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของคู่แข่งรายใหม่นอกโอเปก พร้อมกล่าวเตือนว่า สมาชิกโอเปกต้องเร่งปฏิรูปเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจของตนครั้งใหญ่ หากราคาน้ำมันระยะยาวในตลาดโลกมีแนวโน้มร่วงลงต่ำกว่า 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ ปัจจุบันสมาชิกโอเปกประกอบด้วยซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เวเนซุเอลา เอกวาดอร์ อิหร่าน อิรัก กาตาร์ คูเวต ลิเบีย ไนจีเรีย อัลจีเรีย และอังโกลา