รอยเตอร์ – จีนออกมากล่าวปกป้องโครงการสถาบันขงจื้อ (Confucius Institute) ที่รัฐบาลเป็นผู้ให้ทุนในวันนี้ (5) หลังจากเกิดการตั้งข้อสงสัยขึ้นมาในสหรัฐฯ เกี่ยวกับความโปร่งใสและอิทธิพลต่อเสรีภาพทางวิชาการ
จีน ระบุว่า สถาบันขงจื้อทั่วโลกได้รับการก่อตั้งขึ้นด้วยความสมัครใจของมหาวิทยาลัยต่างๆ และศูนย์เหล่านั้นมีบทบาทส่งเสริมการเรียนภาษาจีนและการแลกเปลี่ยนทางวิชาการและวัฒนธรรม
อย่างไรก็ตาม สถาบันเหล่านั้นได้ก่อให้เกิดความกังวลว่า กำลังคุกคามเสรีภาพทางวิชาการ , เฝ้าจับตาดูนักเรียนจีนในต่างประเทศ และส่งเสริมจุดประสงค์ทางการเมืองของพรรครัฐบาลคอมมิวนิสต์จีน
เมื่อพฤหัสบดี (4) คณะกรรมาธิการด้านกิจการต่างประเทศของสภาผู้แทนสหรัฐฯ ได้จัดการไต่สวนเรื่องที่ว่า เสรีภาพทางวิชาการถูกคุกคามโดยอิทธิพลของจีนที่มีต่อมหาลัยต่างๆ ในสหรัฐฯซึ่งมีสถาบันขงจื้อที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษหรือไม่
หวา ชุนอิง โฆษกหญิงกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุว่า สถาบันขงจื้อทุกแห่งในสหรัฐฯ มีมหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นผู้ยื่นขอจัดตั้งเองโดยสมัครใจ
“ทุกกิจกรรมในชั้นเรียนและกิจกรรมด้านวัฒนธรรมเปิดกว้างและโปร่งใส ฝ่ายจีนจัดหาอาจารย์และสิ่งการสนับสนุนด้านเนื้อหาการสอนตามความต้องการของฝ่ายสหรัฐฯ และไม่เคยก้าวก่ายเสรีภาพทางวิชาการ” เธอบอกในการกล่าวสรุปข่าวประจำวัน
“เราหวังว่าทุกคนจะสามารถรวมใจกันปฏิเสธแนวคิดอคติและหันมาร่วมกันสร้างสะพานแห่งมิตรภาพ และทำให้มันแข็งแรงมั่นคงยิ่งๆ ขึ้นไป”
ในการไต่สวนของวอชิงตัน คริส สมิธ สมาชิกสภาคองเกรส กล่าวว่า เขาจะเรียกร้องให้สำนักงานบัญชีกลาง (จีเอโอ) ทบทวนทั้งข้อตกลงของสถาบันเครือข่ายของมหาวิทยาลัยสหรัฐฯในจีนและของสถาบันขงจื้อในสหรัฐฯ
“ผมอยากจะรู้ว่า หากข้อตกลงทั้งสองนั้นเปิดกว้างจริง พวกเขาจะยอมรับวิชาการหรือเสรีภาพด้านอื่นๆ ของคณาจารย์ , นักศึกษา และลูกจ้าง หรือไม่ และ อาจารย์ชาวจีนจะได้รับเสรีภาพที่จะนับถืออย่างที่พวกเขาต้องการและสอนเกี่ยวกับเทียนอันเหมิน , ทิเบต และไต้หวันหรือไม่” สมิธ กล่าว
แม้ว่าจะมีการควบคุมเรื่องหลักสูตรอย่างเข้มงวด แต่มหาวิทยาลัยต่างชาติหลายแห่งขับกุลีกุจอกันเข้ามาสร้างความเป็นหุ้นส่วนกับจีน เพื่อที่จะเข้าถึงตลาดการศึกษาขนาดใหญ่ของประเทศนี้ให้มากขึ้น นั่นทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า สถาบันต่างๆ จะถูกบังคับให้ต้องสละเสรีภาพทางการศึกษาหรือไม่