xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯยังไม่ฟันธงให้ “เกย์” บริจาคเลือดได้หรือไม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี – คณะผู้เชี่ยวชาญซึ่งหน่วยงานสาธารณสุขสหรัฐฯ แต่งตั้งให้พิจารณาทบทวนกฎห้ามชายที่เป็นเกย์บริจาคโลหิตตลอดชีวิต ยังไม่สามารถให้คำแนะนำได้ว่าระเบียบเช่นนี้สมควรถูกยกเลิกหรือไม่ ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (เอฟดีเอ) ซึ่งจะต้องรับฟังข้อคิดเห็นจากคณะผู้เชี่ยวชาญทั้ง 17 คน ก็ยังไม่ระบุเช่นกันว่าจะตัดสินใจอย่างไร

“การประชุมที่จัดขึ้นได้ให้ข้อมูลและมุมมองอันเป็นประโยชน์ ซึ่งเอฟดีเอจะใช้ประกอบการพิจารณาต่อไป” เจนนิเฟอร์ โรดริเกซ โฆษกหญิงของเอฟดีเอ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี

“ในการทบทวนนโยบายรับบริจาคโลหิต สิ่งที่ เอฟดีเอ คำนึงถึงมากที่สุดก็คือความปลอดภัยของเลือด และผลผลิตจากเลือดที่จะนำไปใช้กับผู้ป่วย”

เอฟดีเอ มักจะยึดถือคำแนะนำของคณะผู้เชี่ยวชาญ แม้ในทางกฎหมายจะไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามเสมอไป

ผู้เชี่ยวชาญบางคนยอมรับว่า พวกเขายังลังเลที่จะเปลี่ยนกฎซึ่งใช้มาตั้งแต่ปี 1983 แม้จะมีเสียงวิจารณ์หนาหูในช่วงไม่กี่ปีมานี้ว่าเป็นการแบ่งแยกกีดกันชาวเกย์ ขณะที่บางรายเห็นว่าสมควรผ่อนคลายกฎลงบ้าง

“ธนาคารเลือดที่ได้ศึกษาข้อมูลเชื่อว่า พวกเขาสามารถสนับสนุนการเปลี่ยนกฎข้อนี้ทั้งในด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์” โทบี ไซมอน ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์จากบริษัทยา ซีเอสเอล เบห์ริง กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญส่วนหนึ่งเป็นห่วงว่า หากผ่อนคลายกฎข้อนี้ ความเสี่ยงที่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างโรคเอดส์จะแพร่กระจายสู่ผู้ป่วยผ่านการถ่ายเลือดก็มีสูงขึ้น

“ถ้ามีผู้ป่วยได้รับเชื้อเอชไอวีเพิ่มขึ้นแม้แต่รายเดียวจากการยกเลิกกฎนี้ ก็ถือเป็นสิ่งที่รับไม่ได้” เคนราด เนลสัน อาจารย์ด้านระบาดวิทยา สาธารณสุขสากล และยา จากสถาบันการแพทย์มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ ระบุ

ผู้เชี่ยวชาญการแพทย์และนักกฎหมายจำนวนไม่น้อยมองว่า กฎห้ามเกย์บริจาคเลือดเป็นเรื่องล้าสมัยเต็มทน และกระบวนการตรวจหาเชื้อเอชไอวีในปัจจุบันก็ช่วยให้การบริจาคโลหิตของคนรักร่วมเพศมีความปลอดภัยมากขึ้นอยู่แล้ว

ผู้ที่ต่อต้านกฎนี้ยังอ้างถึงความอัปยศอดสูที่ชาวเกย์ต้องเผชิญ และความจริงที่ว่ามันถูกประกาศใช้ในยุคที่โรคเอดส์ยังแพร่ระบาดหนักในชุมชนชาวสีม่วง ซึ่งเวลานั้นคนส่วนใหญ่ยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้

เมื่อไม่นานนี้ คณะกรรมการที่ปรึกษาของกระทรวงบริการด้านสุขภาพและมนุษย์แห่งสหรัฐฯ ได้แนะให้ใช้นโยบายยืดเวลาออกไป 12 เดือนสำหรับชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายในช่วงเวลาที่จะบริจาคเลือด กล่าวคือ หนุ่มเกย์ที่ยังมีเพศสัมพันธ์กับคู่ขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้บริจาคเลือด แต่หากปลอดจากการมีเพศสัมพันธ์นานเกิน 1 ปีก็สามารถบริจาคได้ ซึ่งออสเตรเลีย อังกฤษ และญี่ปุ่น ก็ใช้กฎเช่นนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น