ม็อบนักศึกษาฮ่องกงยื้อสู้ต่อ เมินแกนนำ “อ็อกคิวพาย” ร้องล่าถอย

รอยเตอร์ - กลุ่มนักศึกษาฮ่องกงประกาศกร้าววันนี้ (3 ธ.ค.) ว่าจะปักหลักอยู่ที่พื้นที่ชุมนุมในส่วนสำคัญๆ ของศูนย์กลางทางการเงินของเอเชียแห่งนี้ เพื่อเดินหน้าเรียกร้องการปฏิรูปการเลือกตั้ง และจะไม่ทำตามข้อเรียกร้องของบรรดาแกนนำขบวนการอารยะขัดขืน อ็อกคิวพาย เซ็นทรัล ที่บอกให้พวกเขาล่าถอย

ผู้ชุมนุมหลายร้อยที่ยังเหลืออยู่ที่พื้นที่ประท้วงหลักของย่านแอดมิรัลตี ถัดจากศูนย์ราชการและเขตศูนย์กลางธุรกิจ ตัดสินใจที่จะยืนหยัดต่อสู้ต่อไปเพื่อให้การเลือกตั้งผู้นำของเมืองนี้คนต่อไปในปี 2017 เป็นการเลือกตั้งโดยเสรี

บรรดาผู้ก่อตั้งกลุ่มอ็อกคิวพาย เซ็นทรัล เรียกร้องวานนี้ (2) ให้ผู้ประท้วงกลับบ้านท่ามกลางความกังวลว่าจะเกิดความรุนแรง เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากแกนนำนักศึกษารายหนึ่งออกมาเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนกลับมาร่วมกลุ่มกันอีกครั้ง

ลอร์เรน แลม นักศึกษาวัย 18 ปี กล่าวว่า “ดิฉันคิดว่าคำประกาศนั้นไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย เพราะว่าอย่างที่ฉันได้พูดไปแล้ว เราผ่านอะไรมามาก และฉันไม่คิดว่าเราควรเก็บข้าวของและจากไปเลยในตอนนี้”

ผู้ประท้วงต่างมารวมตัวกันในการการเรียกร้องให้อดีตอาณานิคมของอังกฤษแห่งนี้มีประชาธิปไตยเต็มใบ แต่กลับแบ่งแยกออกจากกันด้วยเรื่องของยุทธวิธีในสองเดือนหลังจากการประท้วงเริ่มต้นขึ้น อีกทั้งยังขาดตัวผู้นำที่แน่ชัด

ข้อเรียกร้องโดยกลุ่มอ็อกคิวพาย มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากเกิดการปะทะรุนแรงระหว่างตำรวจและผู้ประท้วงในย่านแอดมิรัลตี หลังจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวขยายกิจกรรมต่างๆ ของพวกเขาและพยายามที่จะปิดล้อมศูนย์ราชการ

ตำรวจได้ตั้งข้อหาผู้ประท้วงเหล่านี้ และระดมเข้าหวดฟาดด้วยกระบองและฉีดสเปรย์พริกใส่ผู้ประท้วง ส่งผลให้มีนักเคลื่อนไหวและตำรวจบาดเจ็บหลายสิบราย

เบนนี่ ไต๋, เฉิน เจี่ยนหมิง, และสาธุคุณ ซู เย้าหมิง สามแกนนำกลุ่ม ออคคิวพาย ตั้งใจที่จะมอบตัวกับตำรวจในวันนี้ (3) จากบทบาทของพวกเขาในการชุมนุมต่างๆ ที่ถูกรัฐบาลชี้ว่าผิดกฎหมาย

ทางการได้เข้าเคลียร์ผู้ชุมนุมออกจากย่านมงก๊อกตรงข้ามท่าเรือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จุดชนวนให้เกิดการปะทะต่อเนื่องขณะที่บรรดานักศึกษาพยายามที่จะรวมกลุ่มกันใหม่ ผู้ชุมนุมกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งยังคงตั้งค่ายพักในย่านชอปปิ้ง คอสเวย์เบย์ แต่ในย่านแอดมิรัลตียังอยู่กันเป็นจำนวนมาก

ฮ่องกงกลับมาอยู่ภายใต้การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปี 1997 ภายใต้สูตร “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ที่ทำให้ในบางกิจการของเขตปกครองตนเองแห่งนี้เป็นอิสระจากแผ่นดินใหญ่และกำหนดให้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งทั่วไปเป็นเป้าหมายในท้ายที่สุด ทว่า ปักกิ่งยืนกรานแล้วว่าผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าเมืองนี้ทุกคนจะต้องผ่านการคัดกรองจากคณะกรรมการของพวกเขาก่อน