รอยเตอร์ - แกนนำนักศึกษาฮ่องกงเมื่อวันพฤหัสบดี(6พ.ย.) เรียกร้องคนกลางที่ได้รับความเคารพ ช่วยเหลือเตรียมการสำหรับเดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง เพื่อยื่นคำร้องโดยตรงต่อเหล่าผู้นำจีน ร้องขอมอบประชาธิปไตยที่แท้จริงแก่เขตบริหารพิเศษแห่งนี้
เหล่าผู้ประท้วงซึ่งบุกยึดเขตต่างๆที่มีความสำคัญทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองของฮ่องกงมานานเกือบ 6 สัปดาห์ รู้สึกผิดหวังกับศักยภาพของรัฐบาลเมืองในการเจรจาและหวังส่งตัวแทนไปยังจีน เพื่อยื่นคำร้องต่อเหล่าผู้นำคอมมิวนิสต์โดยตรง
"เพื่อให้การสนทนานั้นเป็นจริง เราจำเป็นต้องหาคนกลาง อย่างเช่นนายตุง ชี หวา ผู้ว่าการคนแรกของเขตบริหารพิเศษฮ่องกงหรือริต้า ฟ่าน อดีตประธานสภานิติบัญญัติเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ที่สามารถเตรียมการเหล่านี้และทำให้การเดินทางไปยังจีนเป็นไปได้" นายอเล็กซ์ โชว์ แกนนำสมาพันธ์นักศึกษาฮ่องกงกล่าว
โชว์บอกว่ารัฐบาลเมืองไม่มีขีดความสามารถเพียงพอที่จะคลี่คลายทางตันข้อเรียกร้องของผู้ประท้วงที่ร้องขอประชาธิปไตยที่แท้จริง และมีเพียงปักกิ่งเท่านั้นที่จะทำได้ "นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงคิดว่าการเดินทางไปยังปักกิ่งถึงเป็นเรื่องจำเป็น" เขากล่าว
จีน ปกครองอดีตอาณานิคมของอังกฤษแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 1997 ภายใต้นโยบาย 1 ประเทศ 2 ระบบ ที่ให้อำนาจปกครองตนเองและเสรีภาพอย่างกว้างขว้าง อย่างไรก็ตามผู้ประท้วงต้องการสิทธิในการเลือกตั้งผู้บริการเขตครั้งถัดไปในปี 2017 โดยสมบูรณ์ ไม่ใช่แค่การโหวตเลือกผู้สมัครที่ผ่านการคัดสรรมาจากจีนก่อน
โชว์ไม่ได้ระบุว่าคณะตัวแทนของนักศึกษามีใครบ้าง ยกเว้นแต่บอกว่าการเดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ระหว่างที่จีนมีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปกในเมืองหลวง
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ผู้ประท้วงได้ปะทะกับตำรวจอีกรอบในย่านมงก๊ก หนึ่งใน 3 จุดชุมนุมที่ยังเหลืออยู่ นับเป็นเหตุวุ่นวายครั้งแรกในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ โดยพบเห็นตำรวจถือไม้ตะบองและโล่ จู่โจมเข้าไปในบริเวณดังกล่าวซึ่งมีผู้ประท้วงหลายร้อยคนปักหลักชุมนุมอยู่ จนเกิดการกระทบกระทั่งพอสมควร
จำนวนผู้ประท้วงค่อยๆลดลงจากจุดพีคสุด 100,000 คน ตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่ร้อยคนในปักหลักชุมนุมในพื้นที่สำคัญๆ 2 จุด อันได้แก่เขตแอดมิรัลตี ติดกับศูนย์ราชการและในมงก๊กที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอ่าว ขณะที่อีกจุดในเขตคอสเวย์เบย์ เหลือผู้ประท้วงแค่เล็กน้อย ท่ามกลางเสียงเรียกร้องขอให้ยุติการประท้วงของนักธุรกิจฮ่องกงบางส่วน โดยบอกว่ามันกัดเซาะความเชื่อมั่นต่อศูนย์กลางทางการเงินแห่งนี้
