เอเอฟพี - ผลการสืบหาสาเหตุการตายของหญิงชาวอินเดีย 13 ชีวิต ที่สิ้นลมหลังเข้าร่วมโครงการผ่าตัดทำหมันฟรีของรัฐบาลท้องถิ่นชี้ว่า แพทย์ผ่าตัดและเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยได้ใช้เข็มฉีดยา และเข็มเย็บแผลซ้ำกันตลอดทุกขั้นตอน ทั้งยังไม่เคยเปลี่ยนถุงมือใหม่
หญิงผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้เสียชีวิตลงภายหลังเข้ารับการผ่าตัดที่ค่ายของรัฐบาลในรัฐฉัตติสครห์ เมื่อเดือนที่แล้ว นอกจากนี้ยังมีเหยื่อถูกส่งเข้าโรงพยาบาลอีกหลายสิบคน และจุดประกายให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์โครงการวางแผนครอบครัวของอินเดียอย่างกว้างขวาง
บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบต่างโทษว่า พวกเธอเสียชีวิตเพราะยาที่รับประทานเข้าไปหลังผ่าตัด ซึ่งพวกเขาระบุว่าปนเปื้อนสารเคมีที่ส่วนใหญ่ใช้ในยาเบื่อหนู
อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบจากสถานพยาบาลของรัฐ 4 แห่งชี้ว่า แพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยได้ลงมือผ่าตัดทำหมันหญิง 83 คนในสภาวะแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะ และผู้เคราะห์ร้ายบางส่วนอาจเสียชีวิตจากการติดเชื้อ
รายงานผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า “ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดเปลี่ยนถุงมือระหว่างขั้นตอนการผ่าตัด คนไข้ทุกรายล้วนแล้วแต่ใช้เข็มฉีดยา หลอดดูดยา และเข็มเย็บแผลชุดเดียวกันทั้งหมด”
รายงานฉบับนี้ระบุว่า “ไม่มีอุปกรณ์ชิ้นใดที่ผ่านการฆ่าเชื้อ และไม่มีการเปลี่ยนเข็มใหม่ให้คนไข้แม้แต่รายเดียว”
หญิงกลุ่มนี้มีอาการอาเจียน และความดันเลือดต่ำเฉียบพลัน ภายหลังเข้ารับการผ่าตัดทำหมันผ่านกล้อง ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้วิธีผูกท่อนำไข่
การทำหมันคือหนึ่งในวิธีการวางแผนครอบครัวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในแดนภารตะ และรัฐบาลของหลายรัฐจำนวนก็พากันตั้งเต็นท์ให้บริการทำหมันหมู่ในจุดที่หญิงยากจนในชนบทสามารถเข้ารับการผ่าตัดที่ปกติแล้วกระทำกันอย่างง่ายๆ ไม่ซับซ้อน
รัฐบาลท้องถิ่นอินเดียมักจะตั้งเต็นท์ให้บริการทำหมันฟรี ซึ่งถือเป็นนโยบายระดับชาติ โดยสตรีที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับค่าตอบแทนคนละ 1,400 รูปี
เพื่อให้ได้จำนวนผู้ทำหมันตามเป้า บางรัฐถึงกับเอารางวัล เช่น รถยนต์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า มาเป็นสิ่งล่อใจให้แก่สามีภรรยาสมัครเข้าร่วมโครงการ
แม้จะเน้นความสมัครใจของประชาชน แต่นักสิทธิมนุษยชนชี้ว่า การจัดโครงการแบบมุ่งให้ได้จำนวนคนตามเป้าเป็นเหตุให้ผู้หญิงหลายคนถูกโน้มน้าวให้ทำหมันในสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐานเพียงพอ
แพทย์ซึ่งเป็นผู้ลงมือผ่าตัดทำหมันให้หญิงกลุ่มนี้ยืนกรานว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของเขา และอ้างว่าตนกลายเป็นแพะรับบาป หลังถูกจับกุมเมื่อคนไข้เสียชีวิต
รัฐบาลระบุว่า ผลการตรวจสอบยาปฏิชีวนะที่ให้คนไข้รอบแรกชี้ว่ายาเป็นพิษ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมเจ้าของโรงงานผลิตยาพร้อมลูกชายแล้ว
รายงานระบุว่า ถึงแม้ปัญหายาปลอมปนอาจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้หญิงเหล่านี้ แต่จากการสัมภาษณ์แพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพหญิง 7 คนแรกชี้ว่า พวกเธอเสียชีวิตจากสภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดจนโลหิตเป็นพิษ
คณะเจ้าหน้าที่สอบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงพยาบาลที่เลิกกิจการแล้วในเขตบิลาสปุระ แถบชานเมือง ซึ่งเป็นสถานที่ผ่าตัดทำหมัน ตลอดจนค่ายวางแผนครอบครัวอีกสองแห่ง
นอกจากนี้ พวกเขาได้ขอสัมภาษณ์หญิงที่ล้มป่วยภายหลังเข้าร่วมโครงการทำหมันฟรี แต่รอดชีวิตมาได้ รวมทั้งครอบครัวเหยื่อผู้เสียชีวิต ตลอดจนแพทย์ และเจ้าหน้าที่ผู้ช่วย
ทั้งนี้ ขั้นตอนการตรวจสอบเหล่านี้เป็นคนละส่วนกับกระบวนการไต่สวนคดีนี้ในชั้นศาล ที่ได้รับมอบหมายโดยรัฐบาลท้องถิ่นในรัฐฉัตติสครห์ ขณะที่รายงานการชันสูตรศพ และผลการตรวจหาพิษในยาที่ต้องสงสัย ฉบับสุดท้ายยังคงไม่ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะ
