เอเอฟพี - ราคาน้ำมันในวันจันทร์ (1 ธ.ค.) ฟื้นตัวแรงจากระดับต่ำสุดรอบ 5 ปี แต่นักวิเคราะห์มองเป็นแค่การปรับฐานหลังร่วงลงหนักราว 10 ดอลลาร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนวอลล์สตรีทขยับลง หลังยอดขายวัน “แบล็กฟรายเดย์” ออกมาน่าผิดหวัง ขณะที่ทองคำทะยานกว่า 40 ดอลลาร์ นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ท่ามกลางความกังวลต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 2.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากวันศุกร์ (28 พ.ย.) แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กันยายน 2009 ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.39 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
“ตลาดปิโตรเลียม แกว่งตัวขึ้นระหว่างการซื้อขายเมื่อคืนนี้ อันมีพื้นฐานจากการประเมินทางเทคนิคว่า ราคาน้ำมันที่ลดลงมากกว่า 9 ดอลลาร์ นับตั้งแต่วันพุธ เป็นการแสดงออกถึงความผิดหวังต่อการตัดสินใจของโอเปกเพียงพอแล้ว” ทีโมธี อีแวนส์ จากซิตี ฟิวเจอร์สกล่าว
ส่วน แอนดี ลิโพว์ จากลิโพว์ ออย แอสโซซิเคตส์ ให้ความเห็นเสริมว่า “ตลาดยังคงจับตาผลกระทบของมติโอเปกที่ไม่เปลี่ยนแปลงกำลังผลิต ในนั้นรวมถึงการผลิตน้ำมันจากชั้นหินของสหรัฐฯ ที่มีต้นทุนสูงกว่า ซึ่งอาจได้รับผลกระทบอย่างเจ็บปวดหากราคายังคงทรุดลงต่อเนื่อง”
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (1 ธ.ค.) ปิดลบเล็กน้อย จากแรงฉุดของกลุ่มค้าปลีก ในนั้นรวมถึงบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิล หลังจากยอดขายวัน “แบล็กฟรายเดย์” ช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว ออกมาน่าผิดหวัง
ดาวโจนส์ ลดลง 51.44 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,776.80 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 14.12 จุด (0.68 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,053.44 จุด แนสแดค ลดลง 64.28 จุด (1.34 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,727.35 จุด
หุ้นของบริษัทค้าปลีกปรับลดกันถ้วนหน้าไม่ว่าจะเป็นวอลล์-มาร์ท ที่ปิดลบร้อยละ 1.5 ห้างเมซีย์ส ลดลงร้อยละ 2.7 และเบสต์บาย ปิดลบร้อยละ 5.5 หลังจากสมาพันธ์ผู้ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอ็นอาร์เอฟ) บอกว่า จากผลสำรวจผู้บริโภค คาดคะเนได้ว่าค่าเฉลี่ยของการจับจ่ายในวันแบล็กฟรายเดย์ปีนี้ ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 6.4
ส่วนราคาทองคำในวันจันทร์ (1 ธ.ค.) พุ่งแรง กลับขึ้นไปอยู่เหนือ 1,200 ดอลลาร์เป็นครั้งนับตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม นักลงทุนแห่ถือครองสินทรัพย์เสี่ยง ส่วนหนึ่งจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ “มูดี้ส์” ได้ปรับลดความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่น โดยอ้างว่าเป็นผลมาจากสถานการณ์หนี้ของประเทศ และดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 42.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,218.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นอกจากปัจจัยข้างต้นแล้ว ราคาทองคำยังถูกกดดันจากผลประชามติในสวิตเซอร์แลนด์ หลังข้อเสนอของพรรคการเมืองฝ่ายขวา ที่ต้องการให้ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ เพิ่มปริมาณทองคำสำรองเป็นร้อยละ 20 ของสินทรัพย์ จากร้อยละ 8 ในปัจจุบัน พร้อมกับห้ามขายทองคำเหล่านั้น ถูกปฏิเสธจากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงถึงร้อยละ 77