ก้าวกระโดดนับตั้งแต่สงครามเวียดนาม !! “ รบพิเศษสหรัฐฯ” ควักเงินให้ม.ออสซี วิจัยยา “ทำให้ทหารเจ็บสาหัสอยู่ในสภาวะจำศีล”

เอเจนซีส์ - กองบัญชาการหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ SOCOM ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเจมส์ คุก แห่งออสเตรเลียโดยการให้ทุนวิจัย 550,000 ดอลลาร์ในการคิดค้นยาชนิดใหม่ที่จะทำให้ทหารหน่วยรบพิเศษ เช่น หน่วยซีล หรือ หน่วยคอมมานโด ที่บาดเจ็บสาหัสในสมรภูมิรบอยู่ในสภาวะจำศีลจนกว่าจะสามารถนำพวกเขาไปรักษาในที่ปลอดภัยได้

เดลีเมล สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้(26)ว่า กองบัญชาการหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ SOCOM ให้ทุนการวิจัยร่วม550,000 ดอลลาร์ให้กับนักวิจัยชาวออสเตรเลียเพื่อคิดค้นยาขนานใหม่ในโลก ที่จะเป็นช่องทางไปสู่การทำให้ทหารสหรัฐฯในหน่วยรบพิเศษที่อยู่แนวหน้ามีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น โดยยาตัวใหม่มีเป้าหมายต้องการลดการสูญเสียเลือด แต่ต้องไม่ทำให้เกิดอันตรายกับสมอง

โดยผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ความก้าวหน้าในการใช้ยารักษาในภาคสนามนี้ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามเวียดนาม

ศาตราจารย์ เจฟฟรี ด็อบสัน (Geoffrey Dobson) และผู้ร่วมวิจัย ฮาเลย์ เล็ตสัน (Hayley Letson) จากภาควิชาวิทยาศาตรเขตร้อน ( Tropical Health and Medicine ) แห่งมหาวิทยาลัยเจมส์ คุก ได้ใช้เวลาถึง 7 ปีในการพัฒนาการรักษาขึ้น

เป้าหมายของการรักษาอยู่ที่สิ่งที่แพทย์สนามเรียกว่า “ช่วงเวลา 10 นาทีทองที่มีค่า” นับตั้งแต่ทหารนายนั้นได้รับบาดเจ็บ โดยด็อบสันชี้ว่า “ชั่วโมงทอง” ที่เคยใช้นั้นไม่ได้ผลในสภาพของทหารที่อยู่ในสมรภูมิที่ห่างไกล “ในสงครามอิรัก และอัฟานิสถาน 87% ของตัวเลขการสูญเสียของทหารตะวันตกเกิดขึ้นภายใน 30 นาทีแรก ก่อนที่นายทหารเหล่านั้นจะถูกส่งไปยังโรงพยาบาลได้ทัน และเกือบ 1 ใน 4 ของจำนวนนี้ หรือราว 1 พันคนมีบาดแผลที่สามารถรักษาได้ แต่ “เวลา” เป็นตัวสังหารนายทหารเหล่านี้ ด็อบสันกล่าว

และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเจมส์ คุก หล่าวต่อไปว่า “ปัญหาคือ หลังจากที่ทหารเหล่านี้ต้องสูญเสียเลือดอย่างมาก และสมองได้รับบาดเจ็บ สิ่งที่ดีที่สุดในการรักษาร่างกายแต่กลับไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสมองและอื่น ซึ่งถ้าตั้งเป้าทำให้มีความดันเลือดสูง จะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตจากการเลือดออกจนหมด แต่ถ้าหากตั้งเป้าทำให้ความดันเลือดต่ำจะทำให้สมองเกิดความกระทบกระเทือน ซึ่งถือเป็นดาบสองคน แต่ถ้าหากเราสามารถปรับความดันเลือดได้อย่างเหมาะสม จะกลายเป็นสิ่งแรกสุดในวิวัฒนาการมนุษย์ที่มีมาในการรักษาชีวิตมากมายในสนามรบ”

ซึ่งทีมมหาวิทยาลัยเจมส์ คุก JCU กำลังพัฒนาการรักษา 2 สเตจด้วยกัน โดยการฉีดยาเข็มแรกจะช่วยให้ชีวิตรอดในไม่กี่นาทีแรกจากการตกเลือด และการบาดเจ็บที่สมอง และยาเข็มที่สองฉีดเพื่อให้ร่างกายของผู้ป่วยอยู่ในสภาพคงตัวในระยะเวลานานขึ้นเพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายได้

“ของเหลวสามารถถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดหรือผ่านทางไขกระดูก และยังช่วยลดความเจ็บปวด การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ และพลังงานที่ร่างกายใช้” ด็อบสันกล่าว และแถลงถึงความร่วมมือกับ SOCOM ว่า “ SOCOM เข้ามาเกี่ยวข้องเพราะความก้าวหน้าทางการวิจัยของทีมที่พัฒนามาถึง 7 ปี และ SOCOM เลือกโปรเจกต์ที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดในสาขา ทางเราได้เริ่มพูดคุยถึงกระบวนการควบคุม รวมไปถึง การทดลองทางคลินิกที่จะนำไปสู่การขออนุญาตจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ FDA ภายใน 1ปี

นอกจากนี้ด็อบสันย้ำว่า ประดยชน์ที่ได้จากการพัฒนาโครงการนี้จะไม่จำกัดเฉพาะกับหน่วยซีลสหรัฐฯ และหน่วยคอมมานโดของสหรัฐฯเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงหน่วยรบพิเศษของชาติตะวันตกอื่นๆเนื่องจากมีความร่วมมือระหว่างหน่วยงานอย่างใกล้ชิด

และนอกจากนี้ยาตัวใหม่อาจช่วยชีวิตในท้องที่ทุรกันดารให้เป็นการรักษาฉุกเฉินในเบื้องต้นก่อนถึงมือแพทย์เนื่องจากยาตัวนี้พัฒนามาจากสภาพสถานการณ์ที่บรรดาหน่วยรบพิเศษต้องเผชิญเป็นหลัก