รอยเตอร์ /เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - หลังจากคณะลูกขุนเต็มคณะ 12 คนตัดสินในวันจันทร์(24)ไม่มีการสั่งฟ้องดาเรน วิลสัน นายตำรวจผิวขาววัย 28 ปี มือตำรวจยิงไมค์ บราวน์ วัยรุ่นผิวสี วัย 18 ปี จากกฏหมายอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ใช้อาวุธป้องกันตัวหากถึงแก่ชีวิต ที่ยังเป็นที่คลุมเคลือเหตุใดวิลสันที่มีความสูง 6 ฟุต 4 นิ้ว และยอมรับว่าเป็นครั้งแรกในหน้าที่การทำงานตำรวจใช้ปืนยิงบราวน์ถึง 12 นัดจากลูกกระสุนทั้งหมด 13 นัด และประกาศหากย้อนเวลากลับไปได้จะทำเช่นนั้นอีก สร้างความโกรธแค้นให้กับชุมชนผิวดำและชาวอเมริกันในสหรัฐฯ เกิดการประท้วงไปทั่วตั้งแต่ลอสแองเจลิสจนถึงนิวยอร์ก และมีการจับกุมผู้ประท้วงทั้งในเฟอร์กูสันและที่อื่นๆร่วม 400 คน และมีรายงานโบสถ์แอฟริกันอเมริกันที่บิดาของไมเคิล บราวน์เข้าพิธีรับศีลจุ่มถูกเผา ในขณะที่ CNN สื่อสหรัฐฯรายงานฉายซ้ำคำพูดของพ่อเลี้ยงของบราวน์ที่ประกาศออกมาในวินาทีที่ได้ทราบคำตัดสิน “เผาเมืองนี้แม่..งให้ราบ”
เทศกาลสำคัญของครอบครัวที่กำลังจะมาเยือนในวันพรุ่งนี้ของประชาชนสหรัฐฯได้แก่ ThanksGiving Day หรือวันขอบคุณพระเจ้าในวันพรุ่งนี้(27) ที่ทุกครอบครัวต้องเริ่มซื้อของเตรียมทำอาหารดินเนอร์ในวันสำคัญตั้งแต่เย็นวันนี้(26)และพร้อมรับกับการจับจ่ายในรอบปีในวัน Black Fridayที่ทุกครอบครัวดูเหมือนใจจดใจจ่อต้องรอซื้อทีวีใหม่และเครื่องเล่นบลูเรย์ใหม่ แต่ในปีนี้เฟอร์กูสันอาจไม่เป็นเช่นนั้น
จากเหตุจลาจลที่เริ่มมีขึ้นหลังจากคำตัดสินของคณะลูกขุนแบบเต็มคณะในคดียิงไมค์ บราวน์ วัย 18 ปี ได้ประกาศไม่ฟ้องดาเรน วิลสัน ตำรวจผิวขาววัย 28 ปีมือยิงที่อ้างว่าถูกคุกคามถึงแก่ชีวิต และได้ประโยชน์จากกฎหมายคุ้มครองนั้น ทำให้บรรดาแอฟริกันอเมริกันในเฟอร์กูสันที่รวมตัวกันเกิดไม่พอใจ ทำให้เกิดการปล้นสะดม และจุดไฟเผาถึง 2 คืนติด และการประท้วงลามไปตั้งแต่ฝั่งตะวันตกไปจรดฝั่งตะวันออกทั่ว 170 เมืองทั่วสหรัฐฯ
เจย์ นิกสัน ผู้ว่าการรัฐมิสซูรีประกาศภาวะฉุกเฉิน และระดมทหารแนชันแนลการ์ดเข้าตรึงพื้นที่ร่วม 2,200 นาย และในคืนวันอังคาร(25)ตำรวจท้องที่สามารถจับกุมผู้ประท้วงได้ 45 คนในเฟอร์กูสัน ลดลงจาก 61 คนในคืนวันจันทร์(24)
ทั้งนี้จากเหตุความไม่สงบทำให้ในวันพุธ(26)นิกซ์สันถูกตำหนิว่า ไม่สั่งให้มีจำนวนทหารแนชันแนลการ์ดมากเพียงพอเพื่อรับมือเหตุไม่สงบเพื่อรับมือหลังจากการอ่านมติของคณะลูกขุน
นอกจากนี้รอยเตอร์ยังรายงานเพิ่มเติมว่า ตำรวจเซนต์หลุยส์กล่าวว่า มีการจับกุมผู้ประท้วง 3 คนใกล้กับที่ว่าการเมืองในวันพุธ(26) ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงได้จำลองการตัดสินในคดีนี้
และถึงแม้เฟอร์กูสันจะเป็นเมืองที่มีประชาชนเป็นชาวผิวดำเป็นส่วนใหญ่ แต่กลับพบว่าตำรวจท้องที่เป็นผิวขาว รวมไปถึงนายกเทศมนตรีเฟอร์กูสัน เจมส์ โนว์เลส(James Knowles) เป็นคนผิวขาวเช่นเดียวกัน รวมไปถึงสมาชิกสภาเมืองที่เกือบทั้งหมดเป็นผิวขาว และเจย์ นิกซ์สัน ผู้ว่าการรัฐมิสซูรี เป็นคนผิวขาว
รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า ฝูงชนผู้ประท้วงในเฟอร์กูสันมีขนาดเล็กกว่าในวันจันทร์(24) และสามารถควบคุมได้มากกว่า ที่ในวันจันทร์(24ป มีผู้ถูกจับกุมไปถึง 60 คน ร้านค้าหลายสิบแห่งถูกเผา รวมไปถึงมีการทำลายรถตำรวจ
และการประท้วงลามออกนอกเฟอร์กูสันไปทั่วสหรัฐฯ ในวันอังคาร(25) มีการปิดถนนไฮย์เวย์สายสำคัญ และทำให้เกิดการจับกุมตัวขึ้น โดยตำรวจบอสตันจับกุมผู้ประท้วงราว 45 คนเมื่อวานนี้(26) หลังจากมีการเดินขบวนจำนวนหลายพันคนเรียกร้องความชอบธรรมให้กับไมค์ บราวน์ ในดัลลัส รัฐเทกซัส มีผุ้ประท้วงถูกจับไป 7 คนในข้อหากีดขวางการจราจรแยกถนนฟรีเวย์ I-35
และที่นิวยอร์ก ตำรวจปราบจลาจลได้พ่นสเปรย์พริกไทยเพื่อควบคุมฝูงชนหลังจากกลุ่มผู้ประท้วงพยายามจะปิดการจราจรเข้าและออกอุโมงค์ลินคอล์น ซึ่งเป็นอุดมงค์ที่อนุญาตให้รถผ่าน รวมไปถึงสะพานทริโบโรก( Triborough)
นอกจากนี้ในลอสแอนเจลิส ผู้ประท้วงขว้างขวดน้ำพลาสติก และวัตถุอื่นๆเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ด้านนอกสำนักงานใหญ่ตำรวลอสแอนเจลิส และปิดการจราจรเข้าและถนนไฮย์เวย์เข้าสู่ออกดาวน์ทาวน์ซึ่งเป็นผลทำให้รถติดสาหัส
และในวันพุธ(26) นิวยอร์กเดลี รายงานว่า โบสถ์ของชุมชนผิวดำในเฟอร์กูสันที่บิดาตามสายเลือดของไมเคิล บราวน์ได้เคยเข้ารับศีลจุมถูกเผาวอด ซึ่งสาธุคุณ คาร์ตัน ลี(Rev. Carlton Lee) ให้ความเห็นว่า เป็นฝีมือของ "white supremacist" หรือกลุ่มผิวขาวสุดโต่ง เข้าวางเพลิงโบสถ์ Flood Christian Church ในช่วงคืนดึกวันจันทร์(24)ที่การจลาจลเริ่มขึ้น โดยก่อนหน้าที่จะมีการลงมติของคณะลูกขุน พบว่าดาเรน วิลสันได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม white supremacist ที่รวมไปถึงกลุ่ม KKK ซึ่งมีชื่อในด้านการเหยียดผิว เช่น ในอดีต จับคนผิวดำแขวนคอกับต้นไม้ หรือ จับตึงกางเขนเผาทั้งเป็น ในการรณรงค์ขอรับบริจาคเงินสนับสนุนเพื่อสู้คดี และพบว่ามีการจัดทำริสแบนด์เพื่อให้กำลังใจวิลสัน
นอกจากนี้นิวยอร์ก เดลี รายงานว่า โบสถ์แห่งนี้เป็นเป้าของเหล่าผิวขาวสุดกู่เพราะ ตัวของลีเป็นผู้รณรงค์เรียกร้องให้มีการดำเนินคดีกับวิลสัน ผู้ซึ่งในเวลานี้หยุดปฎิบัติหน้าที่แต่ยังได้รับเงินเดือนจากภาษีท้องถิ่นตามปกติ โดยพบว่าโบสถ์ Flood Christian Church เป็นหนึ่งในตึกธุรกิจร้านค้าหลายสิบแห่งที่ถูกวางเพลิงเผาในชานเมืองเซนต์หลุยส์ในช่วงข้ามคืนตัดสิน
ผลจากมติของคณะลูกขุนที่ยังเคลือบแคลงมาถึงทุกวันนี้ยกประโยชน์ให้นายตำรวจผิวขาวที่ความน่าเชื่อถือในการให้การ รวมไปถึงหลักฐานพยานกล้องติดตัว และการให้การของพยานปากที่ #10 ที่มีผลทำให้เหตุการณ์ในชั้นศาลและเหตุการณ์ที่ถูกเล่าโดยผู้ประท้วงและฝั่งผู้เสียชีวิตขัดแย้ง ทำให้ ดาเรน วิลสัน ที่มีขนาดร่างกาย 6 ฟุต 4 นิ้วน้ำหนัก 210 ปอนด์ “อ้างว่ารู้สึกถึงภัยคุกคามถึงชีวิตในการต้องจับกุมบราวน์” ที่มีขนาดร่างกาย 6 ฟุต 5 นิ้ว น้ำหนัก 289 ปอนด์ และได้อธิบายามีความรู้สึกคล้ายเป็นเด็กอายุ 5ปี ถูกยักษ์ปักหลั่นจับ พร้อมกับยอมรับกับสื่อที่รุมตอมให้สัมภาษณ์ ไม่ว่าจะเป็น ABC CNN หรือ NBC ว่า “ไม่คิดว่า บราวน์จะชูมือเพื่อแสดงอาการยอมจำนน” และการที่บราวน์หันกลับและเดินตรงมาหาเขา จนทำให้วิลสันต้องยิงรัวไม่นับนั้น ในความรู้สึกของเขา “บราวน์กำลังเข้าชาร์จ ไม่ใช่เดินเข้ามาเพื่อยอมมอบตัว”
โดยวิลวันให้สัมภาษณ์ยอมรับกับสื่อว่า “เป็นครั้งแรกในอาชีพตำรวจ 4-5ปีที่มีโอกาสใช้ปืนยิง และตัดสินใจยิงบราวน์ไป ซึ่งหากย้อนกลับไปอีกครั้งก็จะทำเช่นนั้นอีก” โดยอ้างว่าไม่เกี่ยวกับการที่เขาเป็นผิวขาวและบราวน์เป็นผิวสี “แต่ยอมรับเมื่อถูกถามว่า 12 นัดนั้นไม่มากไปหรือ โดยวิลสันอ้างว่า เขาไม่ได้นับตอนลั่นไก เพราะคิดว่าต้องยิงเพื่อหยุดบราวน์” โดยพบว่า วิลสันยิงถึง 12 นัดจากทั้งหมด 13 นัด และมีจำนวน 5-6 นัดที่ฝังในตัวบราวน์ ซึ่งขัดกับการให้สัมภาษณ์ของเพื่อนบราวน์ที่อยู่ในขณะที่เกิดเหตุ และถูกวิลสันหยุดในขณะที่คนทั้งคู่เดินอยู่กลางถนน และวิลสันสั่งให้บราวน์และเพื่อนกลับไปเดินบนฟุตบาท
ซึ่งในการสืบพยาน ดอเรียน จอห์นสัน (Dorian Johnson) เพื่อนของบราวน์ได้เปิดเผยความรู้สึกว่า “ไม่ชอบลักษณะคำสั่งของวิลสันซึ่งคล้ายกับพ่อสั่งลูก” และเหตุนี้ เดลิเมล สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(26)ว่า เป็นสาเหตุสำคัญที่คณะลูกขุนตัดสินใจจะไม่ฟังการให้การของจอห์นสันที่ถึงแม้จะอยู่ร่วมตลอดเวลา และมีการปะทะกับวิลสัน รวมไปถึงพบว่าจอห์นสันมีประวัติอาชญากรรมติดตัว เช่นการลักทรัพย์ แต่ตัดสินใจจะเชื่อในการให้การของวิลสันมากกว่า ซึ่งคล้ายกับคดีของเทวอน มาร์ติน วัยรุ่นผิวสีชาวฟลอริดา ที่ถูกสังหาร โดยพยานปากสำคัญทางฝั่งของมาร์ติน นั้นให้การสับสนและขาดความมั่นมั่นใจ ประกอบกับไม่เข้าใจคำถามเมื่ออยู่ในชั้นศาล เมื่อเทียบกับทางฝั่งของมือยิงจอร์จ ซิมเมอร์แมน
นอกจากนี้สื่ออังกฤษยังรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากการให้สัมภาษณ์ของวิลสันหลังคำตัดสิน และนิวอยร์กไทม์สนำเสนอผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ถึงที่อยู่และรายละเอียดสถานภาพครอบครัวของเขา สร้างความโกรธเคืองให้กับหลายฝ่าย ในสายผู้ฟังรายการวิทยุ Sean Hannity วิทยุขวาจัด แสดงความไม่เห็นด้วยเมื่อมีการเปิดเผยว่า วิลสันได้จดทะเบียนสมรสกับบาบารา สเปรดดิง (Barbara Spradling )ตำรวจหญิง เพื่อนร่วมงานประจำเฟอร์กูสันน้อยกว่า 10 สัปดาห์ หลังจากได้ปลิดชีวิตไมเคิล บราวน์ เพราะเกรงในความปลอดภัยของครอบครัวตำรวจนายนี้และหากเกิดขึ้น สื่อนิวยอร์กไทม์สต้องรับผิดชอบ โดยในแถลงการณ์ วิลสันเปิดเผยว่า เขากำลังจะเป็นพ่อคน โดยทางรายการวิทยุ Sean Hannity และผู้ฟังเกรงว่าครอบครัวใหม่ของเฟอร์กูสันอาจไม่ได้รับความปลอดภัยจากกลุ่มคนที่เผาห้างร้านในการก่อจลาจล
ซึ่งในขณะเดียวกัน ฝั่งพ่อแม่ของบราวน์ถูกวิพากษ์อย่างหนักหลังจากสถานีโทรทัศน์ CNN America นำเสนอเหตุการณ์วินาทีที่สมาชิกครอบครัวบราวน์ได้รับฟังคำตัดสิน และพ่อเลี้ยงของบราวน์ได้ประกาศด้วยโทสะในวินาทีนั้น “เผาเมืองนี้..แม่..งให้ราบ” ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างสงคราวระหว่างผิวขาวและผิวสีร้าวลึกหนักขึ้นในทุกชั่วโมงที่ CNN America เสนอซ้ำไปซ้ำมา โดยในการให้สัมภาษณ์ครั้งแรกของครอบครัวบราวน์ในวันพุธ(26)นั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น และกล่าวว่า ดาเรน วิลสัน พูดโกหกเกี่ยวกับลูกชายของพวกเขา และกล่าวว่า รัฐมิสซูรีที่เป็นรัฐเหยียดผิวส่งไมเคิล แมคคัลลอช์ อัยการเซนต์หลุยส์เคาน์ตี ตรึงกางเขนบราวน์ในศาล แต่ยังยืนยันพวกเขาสงบและไม่ต้องการความรุนแรงถึงแม้ CNN จะถ่ายทอดคำพูด “เผาเมืองนี้..แม่..งให้ราบ” ออกมาก็ตาม
โดยไมเคิล บราวน์ ซีเนียร์ บิดาของบราวน์ ผู้เสียชีวิต ยืนยันว่า พวกเขาอยู่ในรัฐเหยียดผิวเมื่อพิจารณาจากคำตัดสินของคณะลูกขุน 12 คน “มติของคณะลูกคุณทำให้ผมคิดได้ว่า ผมไม่ได้อาศัยอยู่ในเมืองที่เหมือนอย่างที่เราเคยคิดไว้..หรือผมเคยคิดไว้” และเลสลีย์ แมกสแปดเดน ( Lesley McSpadden ) มารดาของบราวน์เปิดใจว่า “ไม่คิดว่าวิลสันต้องการมุ่งสังหารบราวน์ แต่เขาแค่อยากจะฆ่าใครสักคน” ซึ่งมารดาของบราวน์ต้องตั้งคำถามกับวิลสันที่เปิดใจกับ CBS ว่า “ไม่มีเรื่องติดใจในการลั่นไกยิงบราวน์เพราะถือเป็นการทำตามหน้าที่โดยปกติ” โดยแมกสแปดเดนต้องการทราบว่า “วิลสันจะไม่รู้สึกผิดได้อย่างไรในเมื่อได้ลงมือใช้ปืนยิงคนหนึ่งเสียชีวิตตรงหน้า โดยเฉพาะเป็นการเสียชีวิตประเภทตายโหง”
สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า มารดาของบราวน์ร้องขอให้มีความสงบในเฟอร์กูสันหลังจากที่เธอปรากฎตัวในวันลงมติพร้อมกับแว่นกันแดดอำพรางใบหน้า แต่ความโกรธและน้ำตาไหลออกมาหลังผลมติชี้ ฆาตกรสังหาร ไมค์ บราวน์ ได้รับการคุ้มครองทางกฏฎหมาย “ทุกคนต้องการให้ดิฉันใจเย็น แต่ทุกคนรู้ไหม ห่ากระสุนได้พุ่งเข้าใส่ร่างลูกชายของดิฉัน!!” นอกจากนี้สามีของเธอ ที่เป็นพ่อเลี้ยงไมเคิล บราวน์ ได้ประกาศออกมาด้วยโทสะว่า “เผาเมืองนี้ แม่...งให้ราบ” ถูกวิพากษ์มากมายถึงความไม่เหมาะสม และยิ่งทำให้เสียงตำหนิเป็นวงกว้างหลังจาก CNN America ออกอากาศเกือบทุกต้นชั่วโมงของการเสนอ
