เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ยอมเปิดปากครั้งแรกเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว ยันลูกสาวสองคนอาศัยอยู่ในมอสโก ไม่ใช่ในต่างประเทศอย่างที่ลือกัน พร้อมระบุไม่คิดกอดเก้าอี้ไปตลอดชีวิต แต่จะตัดสินใจอีกทีว่า จะลงสมัครเลือกตั้งในปี 2018 หรือไม่
ลูกสาว 2 คนของประธานาธิบดี ปูติน คือ มาเรีย หรือ มาชา วัย 29 ปี และ เยคาเทรินา หรือ แคตยา วัย 28 ปี เป็นความลับดำมืดสำหรับชาวรัสเซียที่แม้แต่หน้าตาของสองสาวยังไม่เคยเห็นมาก่อน เช่นเดียวกับอีกหลายแง่มุมในชีวิตส่วนตัวของปูติน
กระนั้น ระหว่างให้สัมภาษณ์สำนักข่าวทาสส์ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันอาทิตย์ (23) ปูตินปฏิเสธข่าวลือที่ว่า ลูกสาวอาศัยอยู่ในต่างประเทศ โดยยืนยันว่า เขาพบพวกเธอเดือนละ 1-2 ครั้งที่บ้านในมอสโก
สืบเนื่องจากฤดูร้อนที่ผ่านมา มีรายงานที่ไม่ได้รับการยืนยันว่า มาเรียถูกบีบให้ต้องอพยพออกจากบ้านในเนเธอร์แลนด์ หลังโศกนาฏกรรมเที่ยวบิน MH17 ของมาเลเซีย แอร์ไลน์ ตกทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 298 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวดัตช์ เสียชีวิต และมีการกล่าวหาว่า ต้นเหตุคือขีปนาวุธที่มอสโกจัดหาให้กบฏยูเครน
นายกเทศมนตรีเมืองฮิลเวอร์ซัม ที่สูญเสียประชาชนจำนวนมากไปในเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 กรกฏาคม เรียกร้องให้มาเรียย้ายออกจากเมือง ก่อนที่จะขอถอนคำพูดที่ “ไม่ฉลาด” หลังจากนั้น
ขณะเดียวกัน นักเคลื่อนไหวยูเครนถึงขั้นเผยแพร่ภาพและที่อยู่ของ “อพาร์ตเมนต์หรู” ของมาเรีย และเรียกร้องให้ชาวดัตช์ไปยืนประท้วงหน้าอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว
ส่วน เยคาเทรินา นั้นมีรายงานว่า เตรียมเข้าพิธีวิวาห์กับบุตรชายของนายทหารใหญ่เกาหลีใต้เมื่อปี 2010 แต่โฆษกของปูตินออกมาปฏิเสธข่าวลือนี้ตั้งแต่ตอนนั้น
ปูตินไม่เคยถ่ายภาพอย่างเป็นทางการร่วมกับบุตรสาว ที่ใช้ชีวิตอย่างลับๆ ตรงข้ามกับ ทัตยานา ยามาชีวา บุตรสาวของอดีตประธานาธิบดี บอริส เยลต์ซิน ผู้นำรัสเซียคนก่อนหน้า ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
ปูติน วัย 62 ปี ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสมัยแรกในปี 2000 โดยระหว่างเว้นวรรคหลังครองเก้าอี้มา 2 สมัย ปูตินยังคงครองอำนาจในบทบาทนายกรัฐมนตรี และได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2012 ซึ่งมีวาระการดำรงตำแหน่ง 6 ปี
เขาให้สัมภาษณ์สำนักข่าวทาสส์ว่า การตัดสินใจว่าจะลงสมัครเพื่อรักษาเก้าอี้ต่อในปี 2018 หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในประเทศ รวมทั้งอารมณ์และความรู้สึกของตนเองในขณะนั้น
อย่างไรก็ดี เขายืนยันว่าไม่มีแผนครองอำนาจตลอดชีวิต เนื่องจากการกระทำดังกล่าวจะส่งผลลบต่อประเทศ
ผู้นำรัสเซียกล่าวถึงความพยายามโค่นล้มตนที่มาจากทั้งในและนอกประเทศ โดยระบุว่า การลงโทษบุคคลและธุรกิจของรัสเซียโดยตะวันตกจากกรณียูเครน เป็นความพยายามลงโทษเพื่อนพ้องของตน และมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่ชนชั้นนำและสังคมของรัสเซีย
กระนั้น ปูตินยืนยันว่าสังคมรัสเซียยังคงเป็นปึกแผ่นภายใต้การบริหารประเทศของตน
เขายังอธิบายว่า รัสเซียจำเป็นต้องมีกฎหมายจำกัดการอัดฉีดเงินทุนของต่างชาติให้แก่องค์กรพัฒนาเอกชน และการเป็นเจ้าขององค์การสื่อของต่างชาติ เพื่อป้องกันไม่ให้ผลประโยชน์จากภายนอกเข้าไปมีอิทธิพลกับการเมืองรัสเซีย
เขายอมรับได้ที่คนรัสเซียไม่ได้สนับสนุนเขาทั้งหมด แต่สำทับว่า รัฐบาลจะปราบปรามใครก็ตามที่ทำให้รัฐอ่อนแอ
ประมุขเครมลินยอมรับว่า เคยมองผิดว่า หนังสือพิมพ์อเมริกันมีอิสระเนื่องจากสามารถวิจารณ์ผู้นำของประเทศได้ แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่า สื่อก็คือเครื่องมือทางการเมืองที่ต้องเลือกข้างและพึ่งพิงกลุ่มอำนาจกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ปูตินยังใช้การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้สร้างภาพผู้นำรักสุขภาพ โดยบอกว่า เครื่องดื่มโปรดของตนคือ “ชาดำธรรมดา”
ชีวิตส่วนตัวของปูตินเป็นประเด็นข่าวลือมาเนิ่นนานในรัสเซีย ประเทศที่สื่อถูกรัฐควบคุมเข้มงวด กระนั้น ยังมีข้อมูลแม้เพียงน้อยนิดที่ได้รับการยืนยันแพร่งพรายออกมาเกี่ยวกับผู้คนใกล้ชิดของเขา
แรกเริ่ม ปูติน ถูกจับไปโยงกับ อลีนา คาบาเยฟวา นักกีฬาโอลิมปิกยิมนาสติกลีลา หลายปีก่อนที่เขาจะหย่าขาดจาก ลุดมิลา ภรรยาที่ใช้ชีวิตร่วมกันมา 30 ปี เมื่อปีที่แล้ว
ปี 2008 หนังสือพิมพ์ มอสคอฟสกี คอร์เรสปอนเดนต์ รายงานว่า ปูติน กำลังจะแต่งงานรอบใหม่กับคาบาเยฟวาที่อ่อนกว่าเขา 31 ปี แต่หลังจากนั้นไม่นานหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ก็ได้ปิดตัวลง ขณะที่ปูตินให้สัมภาษณ์ว่า คนเราไม่ควรก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวกัน
ปัจจุบัน คาบาเยฟวา เป็นหัวหน้ากลุ่มสื่อทรงอิทธิพลที่สนับสนุนเครมลิน หลังลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาดูมา หรือสภาผู้แทนราษฎรในสังกัดพรรคยูไนเต็ด รัสเซีย ปาร์ตี ของปูติน
สำหรับลุดมิลา ปูตินา หายเงียบเข้ากลีบเมฆหลังขั้นตอนการหย่าลุล่วงเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา