เอเอฟพี - ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปวันนี้ (31 ก.ค.) มีคำสั่งให้รัสเซียชดเชยเงินให้แก่อดีตผู้ถือหุ้น “ยูคอส” (Yukos) บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ ซึ่งเลิกล้มกิจการไปแล้วเป็นเงินเกือบ 1.9 พันล้านยูโร (ราว 8.16 หมื่นล้านบาท)
ศาลสิทธิมนุษยชนมีคำตัดสินเช่นนี้ ภายหลังที่ไม่กี่วันก่อน ศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ณ กรุงเฮกได้ประกาศคำพิพากษาคล้ายๆ กัน โดยระบุให้รัสเซียจ่ายเงินชดเชย 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.6 ล้านล้านบาท) จากการที่มอสโกฮุบบริษัท ยูคอส ของ มิคาฮิล โคดอร์คอฟสกี ซึ่งเป็นอดีตนักวิจารณ์รัฐบาลรัสเซีย
ศาลสิทธิมนุษยชน ในเมืองสตราสบูร์ก ออกคำตัดสินเช่นนี้ สืบเนื่องจากการที่รัสเซียเรียกเก็บภาษีกับ ยูคอส เกินจริง จนบีบให้กิจการต้องล้มละลายในปี 2007 แต่รัสเซียได้ออกมาตอบโต้ว่า ผลการตัดสินครั้งนี้ไม่เป็นธรรม และไม่เป็นกลาง
ในการตัดสินคดีสำคัญครั้งนี้ ศาลสิทธิมนุษยชนได้ประกาศว่า “วิธีการบังคับใช้กฎหมายเกินขอบเขตมีส่วนสำคัญทำให้ยูคอสขาดสภาพคล่อง”
ตัวแทนอดีตผู้ถือหุ้นราว 55,000 คนได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินเกือบ 3.8 หมื่นล้านยูโร (ราว 1.6 ล้านล้านบาท)
เมื่อเดือนกันยายน ปี 2011 ศาลพบว่า วิธีเรียกเก็บภาษีจากบริษัทยูคอส บางขั้นตอน เป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของบรรดาผู้ถือหุ้น
วันนี้ (31) ศาลสั่งให้รัสเซียจัดสรรปันส่วนเงิน 1.9 พันล้านยูโรให้แก่บรรดาผู้ถือหุ้น “เนื่องจากพวกเขาได้เผชิญกับช่วงเวลาที่บริษัทขาดสภาพคล่อง”
เลโอนิด เนฟซลิน อดีตผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นบริษัทยูคอส กล่าวว่า “คำตัดสินเผยให้เห็นว่า รัฐบาลรัสเซียไม่ได้พยายามหาทางประนีประนอม” ข้อพิพาท
เขากล่าวว่า เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่ยูคอสถูกลงโทษ และถูกบีบให้จ่ายภาษี เป็นวงเงินที่สูงกว่ารายได้บริษัท
เขากล่าวกับสถานีวิทยุ “เอคโค ออฟ มอสโก” ว่า “ผมคิดว่านี่เป็นเรื่องงี่เง่าจริงๆ และเราก็เห็นๆ กันอยู่ว่า รัฐบาลรัสเซียกำลังถูกลงโทษเพราะเรื่องโง่ๆ พวกนี้”
ทั้งนี้ ยูคอสเคยเป็นกิจการน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย แต่ก็ต้องลงปิดตัวลง ภายหลังที่ โคดอร์คอฟสกี ถูกจับกุมเมือปี 2003 เพียงไม่นานหลังจากประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียออกมาพูดปรามไม่ให้ชนชั้นนายทุน ที่สร้างเนื้อสร้างตัวหลังสหภาพโซเวียตล่มสลาย และแปรรูปรัฐวิสาหกิจกันอย่างกว้างขวางเข้ามาแทรกแซงการเมืองรัสเซีย
บริษัทแห่งนี้ถูกขายในการประมูลที่จัดขึ้นอย่างอย่างไม่โปร่งใส หลายระลอก ตั้งแต่ปี 2004 ถึง 2006 โดยบริษัท “รอสเนฟต์” ของทางการรัสเซียได้กว้านซื้อกิจการส่วนใหญ่ไป
ทั้งนี้ รัสเซียได้รับแรงกดดันจากวิกฤตความขัดแย้งในยูเครน ภายหลังที่สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู) ได้ออกมาประกาศมาตรการลงโทษขั้นรุนแรง เพื่อคว่ำบาตรภาคส่วนสำคัญด้านการเงิน พลังงาน และอาวุธของรัสเซียในสัปดาห์นี้
ภายหลังที่ศาลยุโรปมีคำตัดสินเช่นนี้ กระทรวงยุติธรรมของรัสเซียก็ออกมาแถลงว่า พวกเขา “ไม่คิดว่าคำตัดสินนี้ เป็นการประเมินสถานการณ์ทางกฎหมายและข้อเท็จจริงในคดีนี้ อย่างเป็นธรรมและเป็นกลาง”
นอกจากนี้ กระทรวงยุติธรรมระบุในคำแถลงว่า รัสเซียยังมีเวลา 3 เดือนในการอุทธรณ์คดี แต่ไม่ได้เปิดเผยว่ารัสเซียจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่