เอเอฟพี/อินดิเพนเดนท์ - ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุหิมะก่อนฤดูหนาวที่ไม่พบเห็นบ่อยครั้งนักทางตะวันตกของมลรัฐนิวยอร์ก เพิ่มเป็น 13 ศพในวันศุกร์(21พ.ย.) ขณะเดียวกันก็มีเหตุให้น่ากังวลยิ่งขึ้นเกี่ยวกับภาวะน้ำท่วมซ้ำเติม จากอุณหภูมิที่สูงขึ้นและเป็นไปได้ว่าจะมีฝนตกหนักในช่วงสุดสัปดาห์
พายุหิมะโหมกระหน่ำเมืองบัฟฟาโล ทางเหนือของนิวยอร์ก อย่างหนักช่วงหลายวันที่ผ่านมา ก่อปริมาณสะสมของหิมะเทียบเท่ากับค่าเฉลี่ยตลอดทั้งปี และเป็นสาเหตุให้อาคารอยางน้อยๆ 30 แห่งพังถล่ม ที่จอดรถบ้านเคลื่อนที่อันตรายเกินไปและหลายชุมชนต้องกลายเป็นอัมพาต
เจ้าหน้าที่บอกว่ายอดผู้เสียชีวิตจากพายุหิมะเลวร้ายครั้งนี้ที่ได้รับสมญานามว่า "ใบมีดแห่งลมเหมันต์(Winter Storm Knife)" เพิ่มเป็น 13 คน โดย 3 รายล่าสุดเป็นคนสูงวัยที่สิ้นลมหายใจระหว่างหรือไม่ก็หลังจากถูกอพยพออกจากบ้านพักคนชรา ส่วนอีกรายเป็นชายวัย 50 ปี พบเสียชีวิตในรถยนต์
ทางการบอกว่ามีหลายศพที่ความจริงแล้วสามารถหลีกเลี่ยงเหตุเสียชีวิตได้ พร้อมเตือนให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน ปฏิบัติตามคำสั่งห้ามเดินทางและไม่ออกไปตักหิมะ โดยเฉพาะพวกที่มีอาการของโรคหัวใจ
สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติเตือนว่าพายุหิมะจากปรากฏการณ์ทะเลสาบ (Lake Effect Snow) ซึ่งเกิดเมื่อลมที่มีอุณหภูมิเย็น เคลื่อนตัวผ่านทะเลสาบขนาดใหญ่ที่น้ำอุ่นกว่า จะยังคงมีความอันตรายไปจนถึงตอนเที่ยงวัน แต่ก็คาดหมายว่าในวันศุกร์(21พ.ย.) จะมีหิมะตกลงมาเพิ่มเติมไม่เกิน 2 นิ้ว
"หากคุณต้องเดินทางระหว่างพายุหิมะจากปรากฏการณ์ทะเลสาบ คาดหมายได้เลยว่าจะต้องเผชิญกับสภาพการขับขี่ที่เลวร้าย ทัศนวิสัยต่ำมากและมีหิมะหนาปกคลุมถนน" สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติระบุ
แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กเตือนเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายลงกว่านี้ก่อนจะค่อยๆดีขึ้น โดยระบุเมื่อแนวหน้าของพายุผ่านพ้นไป คาดหมายว่าอุณหภูมิทั่วรัฐจะสูงขึ้น ทว่ามันยิ่งแต่จะซ้ำเติมความทุกข์ยากแก่ชาวบ้าน ด้วยหิมะที่ละลายอาจนำมาซึ่งปัญหาน้ำท่วม ขณะเดียวกันนักอุตุนิยมวิทยายังพยากรณ์ด้วยว่าในช่วงสุดสัปดาห์นี้จะมีฝนตกลงมาอย่างหนัก
ทั้ง 50 มลรัฐ ในนั้นรวมถึงฮาวาย ต้องประสบอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งในตอนเช้าวันอังคาร(18พ.ย.) ทำให้เดือนพฤศจิกายนปีนี้ กลายเป็นเดือนพฤศจิกายนที่หนาวเหน็บที่สุดนับตั้งแต่ปี 1976 อย่างไรก็ตามหิมะตกหนักในเมืองบัฟฟาโลเป็นพิเศษ เนื่องจากมันตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลสาบอิรี
