เอเอฟพี – รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้(21) และเตรียมการหาเสียงเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งทั่วไปในเดือนธันวาคม ซึ่งกันคาดว่าผลเลือกตั้งจะช่วยตอกย้ำความชอบธรรมแก่รัฐบาลนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะที่คะแนนนิยมกำลังดิ่งเหว และช่วยให้แผนพลิกฟื้นเศรษฐกิจ “อาเบะโนมิกส์” ที่ถูกสังคมตั้งคำถามเดินหน้าต่อไปได้
บุนเมอิ อิบูกิ ประธานสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่น ประกาศว่า “โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติที่ 7 แห่งรัฐธรรมนูญญี่ปุ่น รัฐบาลจึงขอประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร”
อาเบะ แถลงไว้เมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า เขาต้องการให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่าจะรับรองคำสั่งเลื่อนแผนขึ้นภาษีในปีหน้าออกไปหรือไม่ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสองไตรมาสที่ผ่านมาชี้ให้เห็นแล้วว่า การขึ้นภาษีเมื่อเดือนเมษายนส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ทำท่าจะกระเตื้องขึ้นกลับเข้าสู่ภาวะชะงักงันอีก
คณะรัฐมนตรีมีกำหนดประชุมฉุกเฉินในช่วงบ่ายวันนี้(21) เพื่อรับรองวันเลือกตั้ง ซึ่งน่าจะเป็นวันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม
“ผมตระหนักดีว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีความท้าทายอย่างมาก” อาเบะ แถลงต่อบรรดานักธุรกิจในกรุงโตเกียว เมื่อช่วงบ่ายวานนี้(20)
“ผมจะใช้โอกาสในการหาเสียงครั้งนี้อธิบายว่า ยุทธศาสตร์กระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลทำอยู่มันถูก หรือผิดอย่างไร”
ตลอด 24 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นได้ยิง “ธนู 2 ดอกแรก” ของอาเบะโนมิกส์ออกไปแล้ว ซึ่งก็คือมาตรการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และการใช้จ่ายงบประมาณก้อนโต ส่วนธนูดอกที่ 3 ซึ่งหมายถึงการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง ยังคงคาอยู่ในกระบอก
เคนจิ เอดะ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค เจแปน เรสโตเรชัน ปาร์ตี กล่าววานนี้(20)ว่า “ธนูดอกที่ 3 ยังไม่ได้ถูกยิงออกไปเลยด้วยซ้ำ” เพราะเผชิญแรงต่อต้านจากภายในพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ของ อาเบะ เอง
ด้าน บันรี ไคเอดะ หัวหน้าพรรค เดโมเครติก ปาร์ตี ออฟ เจแปน (ดีพีเจ) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก ก็ออกมาเตือนชาวญี่ปุ่นให้คิดทบทวนให้จงหนักว่า “เราจะปล่อยให้ช่องว่าง (ระหว่างคนรวย-คนจน) ขยายกว้างยิ่งขึ้นไปอีกไม่ได้ เราจะจ่ายเช็คเปล่าให้ อาเบะ ถลุงใช้อีก 4 ปีไม่ได้เด็ดขาด”
ผลสำรวจความคิดเห็นโดยหนังสือพิมพ์ อาซาฮี ชิมบุน ในช่วงวันที่ 18-19 พฤศจิกายน พบว่า คะแนนนิยมของรัฐบาลอาเบะลดเหลือเพียง 39% จากระดับ 42% เมื่อช่วงต้นเดือน ส่วนคะแนนความไม่พอใจเพิ่มขึ้นเป็น 40% จากเดิมซึ่งอยู่ที่ราวๆ 36% และนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ อาเบะ เริ่มเข้ามาบริหารประเทศในเดือนธันวาคม ปี 2012 ที่คะแนนนิยมของรัฐบาลต่ำกว่าคะแนนความไม่พอใจ
ผู้นำญี่ปุ่นให้เหตุผลว่า เหตุที่ต้องจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดถึง 2 ปีก็เพื่อหยั่งเสียงประชาชนว่าเห็นด้วยกับแผนเลื่อนการขึ้นภาษี 10% ออกไปก่อนหรือไม่ แต่จากผลโพลของ อาซาฮี พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 65 คิดว่าข้ออ้างของ อาเบะ ฟังไม่ขึ้น
นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า การยุบสภาและเลือกตั้งก่อนกำหนดเป็นเพียงแผนของ อาเบะ ที่จะเอาเสียงประชาชนมาสนับสนุนจุดยืนของตนเอง และข่มขวัญคู่แข่งก่อนที่การเลือกตั้งผู้นำพรรคแอลดีพีคนใหม่จะมาถึงในเดือนกันยายนปีหน้า
อาเบะ ประกาศจะลาออกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี หากพรรคแอลดีพีและพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งปัจจุบันครองที่นั่งถึง 2 ใน 3 ของสภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถคว้าเสียงส่วนใหญ่ได้อีก ซึ่งก็มีความเป็นไปได้น้อยมาก เนื่องจากฝ่ายค้านยังตั้งตัวไม่ติดจากความพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งเมื่อปี 2012
อย่างไรก็ตาม หากฝ่ายรัฐบาลเกิดสูญเสียที่นั่ง ส.ส.ไปมากในศึกเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ ก็จะทำให้ฐานอำนาจของ อาเบะ ไม่มั่นคงดังเดิม