“ปูติน” ระบุผู้ต่อสู้บนความชอบธรรม “ได้อาวุธเสมอ” ขณะสื่อเยอรมันซักใครส่งอาวุธให้ “กบฏยูเครน”

เอเอฟพี - ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียยังคงยืนกรานหัวชนฝาว่า ตนไม่ทราบว่า กลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียที่เคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกของยูเครนได้อาวุธสงครามจากฝ่ายใด เพียงแต่กล่าวว่า ผู้ที่ต่อสู้ด้วยเหตุผลอันชอบธรรม “ย่อมได้รับอาวุธเสมอ”

ระหว่างให้สัมภาษณ์เครือข่ายสถานีโทรทัศน์ ARD ของเยอรมันที่ออกอากาศวานนี้ (16) ปูตินทวนตอบว่า “พวกเขาได้รถถัง และระบบปืนใหญ่มาจากไหนน่ะหรือ”

“ทุกวันนี้ ผู้ที่ลุกขึ้นสู้ และเชื่อว่าตนเองกำลังต่อสู้ด้วยความชอบธรรมนั้นมักได้รับ (การสนับสนุนด้าน) อาวุธเสมอๆ”

เขากล่าวเสริมว่า “แต่ผมขอย้ำว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือ เราไม่อาจมองปัญหานี้เพียงแค่ด้านเดียว”

ทั้งนี้ ยูเครน และบรรดาชาติตะวันตกรุมกล่าวหารัสเซียว่า ลอบส่งกำลังทหารเข้ายูเครนเป็นประจำ เพื่อช่วยสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนใฝ่รัสเซีย ก่อเหตุรุนแรงทางภาคตะวันออกของยูเครนจนเป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4,100 คน ในช่วงมีกี่เดือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ปูตินได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบุรุษของแดนหมีขาวผู้นี้ต้องเผชิญกับเสียงวิจารณ์จากเหล่าผู้นำชาติตะวันตก ที่เข้าร่วมการประชุมซัมมิตประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ จี 20 ณ เมืองบริสเบน ออสเตรเลีย ขณะที่เขาถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวอยู่นอกวง และตัดสินใจเดินทางกลับก่อนการประชุมจะสิ้นสุดลง

ในการให้สัมภาษณ์ ที่ถ่ายทำก่อนการเปิดประชุมซัมมิตจี 20 ไม่นาน ก่อนจะถูกนำมาออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์รัสเซียวันนี้ (17) ปูตินกล่าวว่า เขากังวลว่า อาจเกิด “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ขึ้นในยูเครน

ปูตินระบุในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันพฤหัสบดี (13) ที่เมืองวลาดิวอสต็อกว่า “ถ้าให้พูดกันตรงๆ เรากำลังกังวลอย่างยิ่ง จะอาจมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ จนยูเครนลงเอยด้วยการกลายจะเป็นรัฐนีโอนาซี” ซึ่งเป็นการกล่าวถึงขบวนการของกลุ่มคนที่ต้องการฟื้นคืนลัทธินาซี

เขาวิพากษ์วิจารณ์ว่า ชาติตะวันตกกำลังเข้าข้างยูเครน

“เจ้าหน้าที่ส่วนกลางของยูเครนส่งกองกำลังติดอาวุธไปที่นั่น (ภาคตะวันออกของยูเครน) และพวกเขาใช้ขีปนาวุธ เรื่องแบบนี้ไม่เห็นมีใครพูดถึง ไม่มีสักคำเดียว หมายความว่าอย่างไร”

“สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า คุณต้องการให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางยูเครนบดขยี้ทุกคนที่นั่น กำจัดศัตรูและฝ่ายต่อต้านทางการเมืองของพวกเขาให้สิ้นซาก นั่นคือสิ่งที่คุณต้องการงั้นหรือ แต่สำหรับเราไม่ใช่แน่นอน และเราจะไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”

ปูติน เน้นย้ำอีกครั้งว่า การที่รัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมีย เมื่อเดือนมีนาคม เป็นสิ่งทีถูกต้องชอบธรรมตามกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมชี้ว่า การลงประชามติในไครเมียนี้ชี้ว่า เสียงส่วนใหญ่ต้องการแยกตัวจากยูเครน

เดิมที ปูตินเคยปฏิเสธว่ารัสเซียไม่เคยส่งทหารเข้าไปในไครเมีย แต่ต่อมาเขาออกมายอมรับว่า มีการส่งทหารเข้าไปประจำการบนคาบสมุทรไครเมีย เพื่อช่วยป่องกันเหตุรุนแรง ภายหลังประชาชนจำนวนมหาศาลในกรุงเคียฟได้ลุกฮือประท้วงขับไล่ อดีตประธานาธิบดี วิกตอร์ ยานูโควิช ที่มีจุดยืนสนับสนุนมอสโก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา