เอเอฟพี - วานนี้ (9 พ.ย.) ประธานาธิบดีเม็กซิโกยังคงออกเดินทางเยือนจีน และออสเตรเลียเป็นเวลา 6 วันตามกำหนดการเดิม แม้ว่าชาวแดนจังโก้ที่เกรี้ยวกราดได้จัดการประท้วงคดีที่มีนักศึกษาวิทยาลัยครู 43 คนถูกแก๊งค้ายาเสพติดที่มีความสัมพันธ์กับตำรวจ “อุ้มฆ่า”
เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (9) บรรดาผู้ประท้วงที่โกรธเกรี้ยวได้พยายามบุกเข้าทำเนียบประธานาธิบดีเม็กซิโก ในกรุงเม็กซิโกซิตี ขณะที่คนอื่นๆ วางเพลิงเผารถบรรทุก และรถตำรวจหลายคันในรัฐเกร์เรโร ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีผู้พบเห็นนักศึกษาที่หายตัวไปครั้งสุดท้าย เมื่อปลายเดือนกันยายน
ที่เมืองหลวงมีประชาชนหลายพันคนออกมาเดินขบวนประท้วงคดีที่สร้างความชะงักงันให้แก่เม็กซิโก และจุดประกายให้เกิดวิกฤตการณ์ครั้งเลวร้ายที่สุด นับแต่รัฐบาลภายใต้การนำของ ประธานาธิบดีเอนริเก เปนญา เนียโต ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่ง
การประท้วงครั้งนี้มีขึ้นภายหลังเมื่อวันเสาร์ (8) สมาชิกแก๊งค้ายา “เกร์เรโรส อูนิโดส” เปิดปากรับสารภาพว่าตำรวจพาตัวนักศึกษากลุ่มนี้ไปสงให้พวกเขาฆ่า และเผาศพทำลายหลักฐาน ก่อนจะนำเศษซากที่เหลือไปโยนทิ้งในแม่น้ำสายหนึ่งของรัฐเกร์เรโร
เหล่าเจ้าพนักงานเม็กซิโกกล่าวว่า ยังคงรอผลตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ของร่างผู้เสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม คดีสังหารหมู่นักศึกษาได้ทำลายความพยายามของ เปนญา เนียโต ผู้นำที่เคยวาดหวังจะนำพาเม็กซิโกออกจากปัญหาการก่อเหตุรุนแรงโดยขบวนการค้ายาเสพติดที่ยืดเยื้อคาราคาซังมานานหลายปี ไปสู่การปฏิรูปเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ทำให้เขาได้รับการชื่นชมจากนานาชาติ
*** เปณญา ชี้แจงเหตุผลที่เดินทางออกนอกประเทศ ***
แม้ว่า เปนญา เนียโต จะเดินทางไปแดนมังกร เพื่อเข้าร่วมการประชุมซัมมิตความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ก่อนที่จะพักผ่อนอีก 2 วันในจีน ประเทศที่เขามุ่งหวังจะกระชับสัมพันธ์ด้วย
จากนั้น เขาจะมุ่งหน้าไปร่วมประชุมระดับผู้นำประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่จี 20 ที่เมืองบริสเบน ออสเตรเลียก่อนเดินทางกลับเม็กซิโกในวันเสาร์ (17)
เปนญา เนียโต ได้อาศัยจังหวะระหว่างที่ตนหยุดพักที่มลรัฐอะแลสกา เพื่อบอกผู้สื่อข่าวว่า หากเขาพลาดการเข้าร่วมการประชุมซัมมิตเหล่านี้ ซึ่งมีความสำคัญต่อเม็กซิโก คงมองได้ว่าเขาเป็นผู้นำที่ “ไร้ความผิดชอบ”
ในเวลาที่คดีเก่ายังไม่กระจ่าง ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ระลอกใหม่ปะทุขึ้นในช่วงที่ผู้นำเม็กซิโกเดินทางไปต่างประเทศ โดยที่เว็บไซต์ อริสเตกุย โนติเซียสรายงานว่า ภริยาของ เปนญา เนียโต ได้ซื้อบ้านหรูจากบริษัทแดนจังโก้ ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับกิจการร่วมค้าภายใต้การนำของจีน ที่ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟหัวกระสุนเม็กซิโก
เมือวันพฤหัสบดี (6) เปนญา เนียโต ได้ยกเลิกสัญญาฉบับนี้อย่างปัจจุบันทันด่วน ภายหลังฝ่ายค้านตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในกระบวนการประมูล ที่กลุ่มกิจการจีน-เม็กซิโก ภายใต้การบริหารของบริษัทก่อสร้างทางรถไฟจีน เป็นองค์กรเดียวที่ยื่นเสนอราคา
ทำเนียบประธานาธิบดี เปณญา เนียโต ระบุในคำแถลงว่า อังเจลิกา รีเบร์ลา ภริยาของผู้นำ ซึ่งมีดีกรีเป็นอดีตดาราละครเป็นฝ่ายจัดแจงซื้อบ้านด้วยตัวเอง โดยอริสเตกุย โนติเซียสประเมินว่าอสังหาริมทรัพย์หลังนี้มีมูลค่า 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
องค์การนิรโทษกรรมสากลได้ออกโรงตำหนิว่า การที่ประธานาธิบดีเม็กซิโกเดินหน้าเยือนต่างประเทศนั้น “แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใส่ใจที่จะรับมือสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเม็กซิโก”
ตำรวจที่มีความสัมพันธ์กับขบวนการค้ายาเม็กซิกันได้เปิดฉากกราดยิงรถบัสของพวกเขาในเมืองอิกัวลา รัฐเกร์เรโร ในคืนวันที่ 26 กันยายน ที่เกิดเหตุรุนแรงจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และสูญหาย 43 คน
อัยการกล่าวว่า นายกเทศมนตรีเมืองอิกัวลาเกรงว่านักศึกษากลุ่มนี้จะเข้าขัดขวางการปราศรัยของภรรยา จึงสั่งให้ตำรวจสกัดพวกเขาไว้ โดยตำรวจกลุ่มนี้อยู่ในหมู่ตำรวจและแก๊งอาชญากร 74 คนที่ถูกคุมขังรอการสอบสวน
นักศึกษากลุ่มนี้ได้เดินทางไปยังเมืองอิกัวลาเพื่อระดมทุน แต่จี้รถบัส 4 คันขับกลับบ้าน ซึ่งเป็นวีรกรรมที่วัยรุ่นฝ่ายซ้ายในประเทศนี้ก่อขึ้นเป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม ญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมสถาบันของนักศึกษาวิทยาลัยครู ใกล้เมืองชิลปันซิงโกยังไม่ปักใจเชื่อคำแถลงของเจ้าหน้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ จนกว่าพวกเขาจะได้เห็นผลตรวจดีเอ็นเอจากผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านนิติเวชวิทยา ของอาร์เจนตินา
เมื่อวันเสาร์ (8) ที่ชิลปันซิงโก ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐเกร์เรโร มีนักศึกษาหลายร้อยคนที่เดือดดาลต่อเหตุสังหารหมู่ร่วมกันวางเพลิงเผารถบรรทุกหลายคัน และเขวี้ยงระเบิดเพลิงใส่อาคารที่ทำการรัฐ
เปนญา เนียโต ซึ่งใช้ทำเนียบประธานาธิบดีเป็นสถานที่จัดพิธีการต่างๆ แต่อาศัยในที่พำนักประจำตำแหน่งอีกแห่งในกรุงเม็กซิโกซิตีกล่าวว่า “การที่มีคนนำโศกนาฏกรรมคราวนี้มาสร้างความชอบธรรมในการก่อเหตุรุนแรงนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้”