เอเอฟพี - กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ “โบโกฮาราม” ตกเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง ในการก่อเหตุโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย จนทำให้มีนักเรียนเสียชีวิตไปเกือบ 50 คนวันนี้ (10 พ.ย.) ซึ่งนับเป็นการก่อเหตุโจมตีโรงเรียนที่ใช้หลักสูตรการเรียนการสอนแบบหลักสูตรตะวันตกที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่ง
เหตุระเบิดที่โรงเรียนชายล้วนในเมืองโปติสกุม ของไนจีเรียเป็นการก่อเหตุทำร้ายนักเรียนในรัฐโยเบ ระลอกล่าสุด และนับเป็นการโจมตีด้วยเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่เมืองนี้เป็นหนที่สองในรอบ 8 วันที่ผ่านมา
การสังหารหมู่ครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากเมื่อหนึ่งวันก่อน โบโกฮารามได้แพร่คลิปวีดีโอใหม่ที่เผยให้เห็น อบูบาการ์ เชเกา ผู้นำกลุ่มกบฏออกมาปฏิเสธว่า กลุ่มของตนไม่เคยเห็นพ้องทำข้อตกลงหยุดยิง และร่วมเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลไนจีเรีย
ก่อนที่ระเบิดจะปะทุขึ้นเมื่อเวลา 07.50 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 13.50 น. ในเมืองไทย) นักเรียนที่โรงเรียนมัธยมต้นของรัฐบาล ในเมืองโปติสกุมกำลังเข้าแถวรอฟังครูใหญ่กล่าวหน้าเสาธงดังเช่นเช้าของทุกๆ วัน
เอมมานูเอล โอจูกวู โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติไนจีเรียกล่าวว่า “มือระเบิดฆ่าตัวตายกดชนวนระเบิด มีเด็กนักเรียนตายไปแล้ว 47 คน และบาดเจ็บอีก 79 คน และเชื่อว่า น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มโบโกฮาราม”
*** บรรยากาศชุลมุนวุ่นวาย ***
ครูที่โรงเรียนซึ่งขอสงวนนามบอกว่า ได้ยินเสียงระเบิด “ดังสนั่นหวั่นไหว” ขณะที่ อาดามู อัลกัสซิม ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ภายหลังเกิดระเบิด เขาเห็นรองเท้า เลือด และเศษชิ้นเนื้อมนุษย์ตกกระจายเกลื่อน ขณะที่ผู้บาดเจ็บถูกพาตัวส่งโรงพยาบาลโปติสกุม ซึ่งอยู่ห่างออกไป 100 เมตร
หนึ่งในเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่มีส่วนช่วยอพยพนักเรียนออกมาจากโรงเรียนบอกว่า เด็กๆ วัยรุ่นเหล่านี้มีอาการบาดเจ็บมากน้อยแตกต่างกันไป
ก่อนหน้านี้ กลุ่มโบโกฮาราม ซึ่งต้องการสถาปนารัฐอิสลามเคร่งจารีตขึ้นทางตอนเหนือของไนจีเรีย ได้ก่อเหตุโจมตีโรงเรียนที่ใช้หลักสูตรการเรียนการสอนแบบตะวันตกมานับตั้งแต่ปี 2009
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์กลุ่มนี้ได้ก่อเหตุจู่โจมจนกลายเป็นที่จับตามองไปทั่วโลก ด้วยการลักพาตัวนักเรียนหญิง 276 คนไปจากเมืองชิบอก ในรัฐบอร์โน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเช่นเดียวกัน
แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะผ่านพ้นไปนานกว่า 6 เดือน แต่นักเรียนหญิง 219 คนก็ยังไม่ได้รับอิสรภาพจนถึงตอนนี้