เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- เกิดเหตุระเบิดรถยนต์เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คนรวมถึงทหารอิรัก 5 นายในวันเสาร์ (8 พ.ย.) ทั้งที่กรุงแบกแดด และที่เมืองรามาดีทางตะวันตกของประเทศ เบื้องต้นคาด อาจเป็นการโจมตีจากนักรบกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)
รายงานข่าวซึ่งอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ระบุว่า เกิดเหตุโจมตีด้วยระเบิดคาร์บอมบ์อย่างน้อย 2 ครั้งในย่านที่อยู่อาศัยของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ที่เขตอามิลในกรุงแบกแดด โดยการโจมตีทั้งสองครั้งเกิดขึ้นภายในเวลาไล่เลี่ยกันและเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตที่ส่วนใหญ่เป็น “พลเรือน” อย่างน้อย 20 คน
เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า หนึ่งในคนร้ายที่ก่อเหตุโจมตีในเขตอามิลของกรุงแบกแดดในวันเสาร์ (8) ได้ขับรถซึ่งซุกซ่อนระเบิดไว้ภายในมาจอดกลางย่านชุมชนที่มีผู้คนพลุกพล่าน ก่อนจะลงจากรถเพื่อทำทีไปซื้อบุหรี่ก่อนที่เขาจะหายตัวไปและเกิดระเบิดขึ้น
ในอีกด้านหนึ่งมีการยืนยันว่า เกิดเหตุโจมตีจาก “มือระเบิดฆ่าตัวตาย” บริเวณจุดตรวจของทหารอิรักแห่งหนึ่ง ที่เมืองรามาดีในจังหวัดอันบาร์ ทางภาคตะวันตกของประเทศเป็นเหตุให้มีทหารอิรักเสียชีวิตไป 5 นาย โดยก่อนที่จะเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายไม่นาน จุดตรวจแห่งนี้เพิ่งถูกโจมตีจากกระสุนปืนใหญ่ไม่ทราบฝ่ายหลายลูกติดต่อกัน
จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ ต่อเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นทั้งในกรุงแบกแดดและเมืองรามาดีแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของรัฐบาลอิรักระบุว่า ลักษณะของการโจมตีมีความคล้ายคลึงกับการก่อเหตุรุนแรงหลายครั้งของนักรบกลุ่มไอเอสในช่วงที่ผ่านมา
เหตุโจมตีระลอกล่าสุดเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯให้ความเห็นชอบต่อการส่งกำลังทหารอเมริกันอีก 1,500 นายเข้าไปยังอิรัก เพื่อให้คำแนะนำต่อกองกำลังความมั่นคงอิรักในการสู้รบกับกลุ่มไอเอสทางภาคพื้นดิน
ทั้งนี้ สหรัฐฯได้ใช้งบประมาณกว่า 25,000 ล้านดอลลาร์ในการให้ความช่วยเหลือทางทหารต่ออิรักหลังจากที่สหรัฐฯยกพลบุกอิรักในปี 2003 และโค่นล้มระบอบการปกครองของประธานาธิบดี “ซัดดัม ฮุสเซน”
