เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ล่าสุดเครือข่ายทีวีสหรัฐฯชี้ พรรครีพับลิกันมีจำนวนสมาชิกวุฒิสมาชิกจำนวนมากกว่าพรรคเดโมแครตอย่างน้อย 6 ที่ หลังที่นั่งสว.ในรัฐไอโอวา และรัฐนอร์ทแคโรไลนาตกเป็นของ GOP ซึ่งสื่อสหรัฐฯรายงานว่า สภาวะทางเศรษฐกิจเป็นปัจจัยสำคัญสุดในความคิดของพลเมืองสหรัฐฯที่เดินทางออกไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯเมื่อวานนี้(4) โดยผลExit Poll มากกว่า 4 ใน 10 ชี้ว่า เงินในกระเป๋าชาวอเมริกันเป็นตัวตัดสินในการกาคะแนนในคูหา
จากชัยชนะในรัฐไอโอวาและรัฐนอร์ทแคโรไลนา ส่งผลให้พรรครีพับลิกัน หรือ GOP ที่เก่าแก่ สามารถคว้าได้มากกว่า 6 ที่นั่งเหนือพรรคเดโมแครต ส่งผลให้ GOP สามารถคุมสภาสูงสำเร็จ ที่มีเก้าอี้อยู่ในมืออย่างน้อย 53 ที่นั่งจากทั้งหมด 100 ที่นั่ง และคาดกันว่า มิตช์ แมคคอนเนล สว.จากรัฐเคนตักกี ที่กำชัยอีกสมัยจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำเสียงข้างมากในสภาสูงสหรัฐฯสมความต้องการที่รอมานาน นอกจากนี้เครือทีวีเนตเวิร์กยังคาดการณ์ว่า จำนวนที่นั่งในสภาล่างของรีพับลิกันจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะทำให้รัฐบาลเดโมแครตของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามาต้องทำงานอย่างยากลำบาก
ทั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006 ที่ GOP มีเสียงข้างมากคุมทั้งสภาสูงและสภาล่างของสหรัฐฯสำเร็จ และทำให้สหรัฐฯก้าวสู่แนวทางเป็นอนุรักษ์นิยมมากขึ้น
ด้าน แฮร์รี รีด ผู้นำเสียงข้างมากสภาสูงสหรัฐฯสายพรรคเดโมแครตได้กล่าวผ่านทวีตเตอร์ ล่าสุดที่ทราบข่าว จากการรายงานของบีบีซี อเมริกา โดย เขากล่าวว่า ผลการลงคะแนนแสดงให้เห็นว่าประชาชนชาวอเมริกันต้องการให้พรรคทำงานให้หนักมากขึ้น
โดยNBC News สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้(4) ว่า ในคำถามที่ให้ชาวอเมริกันเลือก 4 ปัจจัยที่มีความสำคัญมากที่สุด ตั้งแต่ เศรษฐกิจ ประกันสุขภาพ การอพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย และนโยบายต่างประเทศสหรัฐฯ พบว่า 44 % ชี้ไปที่สภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯสำคัญที่สุด และ 1 ใน 3 หรือ 34 % เชื่อว่า เศรษฐกิจของอเมริกากำลังจะดีขึ้น ในขณะที่ส่วนใหญ่ราว 58 % เชื่อว่า เศรษฐกิจของประเทศแย่ โดยในกลุ่มนี้มี 27 % คิดว่าแย่แบบชะงักงัน ส่วนอีก 31 %เห็นว่าเศรษฐกิจอเมริกาแย่ลง
นอกจากนี้ 1 ใน 4 ของผู้ออกเสียงให้ความเห็นว่า ปัญหาประกันสุขภาพ และการรักษาพยาบาลสำคัญที่สุด ซึ่งคล้ายกับในอีก 13 % ที่เห็นว่า นโยบายการต่างประเทศสหรัฐฯเป็นเรื่องที่มาอันดับ 1 ส่วนอีก 14 % สนใจปัญหาการอพยพเข้าสหรัฐฯผิดกฎหมายเป็นปัจจัยหลัก
และExit Poll ยังชี้ว่าปัญหาสภาพเศรษฐิกิจนั้นได้รับความสนใจเป็นอันดับแรกเกือบเท่าๆกันทั้งในส่วนของพรรดเดโมแครตที่มีผู้สนับสนุน 50% และพรรครีพับลิกัน 48% แต่เมื่อดูในส่วนอื่นๆจะพบว่า61 % ผู้สนับสนุนเดโมแครตให้ความสำคัญกับปัญหาประกันสุขภาพ เมื่อเทียบกับพรรครีพับลิกัน 37 %
แต่ในขณะเดียวกันผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันให้ความสำคัญกับปัญหานโยบายต่างประเทศสหรัฐฯถึง 56 % เมื่อเทียบกับ 42 % จากผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต และปัญหาอพยพเข้าเมืองผิดกฏหมายที่ผู้สนับสนุนรีพับลิกันให้ความสนใจมากกว่าผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตในสัดส่วน 3 ต่อ1
