xs
xsm
sm
md
lg

สื่อนอกรายงาน “บิ๊กตู่” สั่งสื่อไทย! “ห้ามรายงานข่าวความเคลื่อนไหวทักษิณเด็ดขาด”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เมื่อวานนี้ (3 พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาข่มขู่ที่จะควบคุมการทำงานของสื่อมวลชนไทยมากขึ้น หากสื่อยังไม่เลิกนำเสนอข่าวอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร หลังจากมีรูปภาพการพบปะครอบครัวของทักษิณ และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ถูก พล.อ.ประยุทธ์ยึดอำนาจ อุ้มแพนดาพร้อมกับน้องไปป์ บุตรชายของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเป็นผลทำให้มียอด “ไลก์” บนเฟซบุ๊กของยิ่งลักษณ์ในช่วงก่อนวันจันทร์ (3) สูงถึง 280,000 ไลก์

เอเอฟพีรายงานเมื่อวานนี้ (3) ว่า หลังจากภาพโซเชียลมีเดียของอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกเผยแพร่ออกมาทางหน้าหนังสือพิมพ์และโลกอินเตอร์เนต ที่ได้พบปะกับอดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และบุตรชายของเธอ น้องไปป์ ที่ญี่ปุ่น และเดินทางต่อไปยังจีน โดยมีภาพคนทั้งสามกำลังอุ้มหมีแพนด้าลงเป็นข่าวของสื่อทุกสำนัก ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มาจากการยึดอำนาจเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาไม่พอใจ

ทั้งนี้ ทักษิณ เศรษฐีหมื่นล้านด้านโทรคมนาคมของไทยถูกยึดอำนาจในปี 2006 ในขณะที่เดินทางไปในฐานะนายกรัฐมนตรีของไทยเพื่อเข้าร่วมประชุมวิสามัญใหญ่ของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ในนิวยอร์ก และได้ใช้ดูไบเป็นที่พำนักเรื่อยมาหลังจากนั้นเพื่อหลบเลี่ยงการถูกตัดสินลงโทษในคดีโกงที่รัชดาฯ ที่มีโทษจำคุก 2 ปี และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความขัดแย้งทางการเมืองของไทยนับสิบปี และเกิดเหตุจลาจลจนเกิดการเผาตึกเซ็นทรัลเวิลด์ขึ้นในสมัยรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีสายพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์เองเกือบจะต้องได้รับบาดเจ็บจากการโดนทำร้ายด้วยฝีมือกลุ่มคนเสื้อแดง ผู้สนับสนุนทักษิณ ส่วน นิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีของนายอภิสิทธิ์ พร้อมผู้ช่วยพร้อมอีกหนึ่งคนถูกกลุ่มเสื้อแดงเข้ารุมทำร้ายและลักพาตัวไป

นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยได้ถูกศาลไทยสั่งให้หยุดการปฎิบัติหน้าที่ในฐานะผู้นำฝ่ายบริหารของประเทศ ทำให้เกิดสุญญากาศทางการบริหารของประเทศเกิดขึ้น ก่อนที่จะถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้นเข้ายึดอำนาจก่อนวันเผชิญหน้าของกลุ่ม กปปส.กับอำนาจรัฐ และคนเสื้อแดง

ทักษิณเป็นอดีตผู้นำของไทยที่มีทั้งคนรักและเกลียดมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ในขณะที่ฐานเสียงในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือต่างชื่นชม และรักทั้งตัวทักษิณและตระกูลชินวัตร จากปรากฏการณ์ที่บ้านหลายหลังในฐานเสียงของตระกูลชินวัตรมีรูปภาพของนายกรัฐมนตรีผู้นี้ประดับไว้ด้วยความภาคภูมิใจ และผู้สนับสนุนเหล่านี้สามารถทำให้พรรคการเมืองที่มีตระกูลชินวัตรเป็นผู้นำ ชนะในทุกสนามการเลือกตั้งของไทยนับตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา แต่ในขณะเดียวกันในกรุงเทพฯ และทางใต้ รวมถึงทางตะวันออกบางส่วน ตลอดจนชนชั้นนำในไทย โดยเฉพาะผู้รักในสถาบันที่อยู่ในกองทัพ และระบบยุติธรรม ต่างล้วนเป็นปรปักษ์กับทักษิณทั้งสิ้น

เมื่อวานนี้ (3) หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้เตือนสื่อมวลชนไทยว่า “อย่านำเสนอข่าว (ทักษิณ) อีก เพราะอย่างที่ทุกคนทราบกันดี....เขาทำผิดกฎหมาย” และพล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “อย่าบังคับให้ทางเราต้องใช้มาตรการทางกฎหมาย อำนาจทางบริหาร หรือกำลัง” เอเอฟพีรายงานว่า ทั้งนี้ กฎอัยการศึกยังถูกคงไว้ภายในราชอาณาจักรไทย และมีการออกคำสั่งห้ามการเสวนา หรือจัดชุมนุมทางการเมืองในวงกว้างทั้งทางสื่อ และในที่สาธารณะ

อย่างไรก็ตาม หลังจากบรรยากาศตรึงเครียดทางการยึดอำนาจได้ผ่านพ้นไป ทั้งตัวทักษิณ และน้องสาวได้เริ่มปรากฏบทบาทมากขึ้นในทางสาธารณะ โดยล่าสุดก่อนหน้านี้อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางไปร่วมเป็นประธานงานศพของ พ.อ.ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 และ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ได้เสียชีวิตที่ฟิลิปปินส์ สร้างความรู้สึกกังวลใจให้กับกลุ่มผู้ยึดอำนาจ

โดยนักวิจารณ์ที่ไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหารเชื่อว่า เป้าหมายของการทำรัฐประหารไม่ใช่เพื่อต้องการรักษาความสงบของประเทศไม่ให้เกิดการนองเลือด แต่เป็นเพราะมีเป้าประสงค์ทางการเมือง ที่ต้องการใช้ช่องทางตามกฏหมายเพื่อกำจัด “ตระกูลชินวัตร” ให้หลุดออกจากวงโคจรทางการเมือง รวมไปถึงต้องการปิดปากฐานเสียงสำคัญของตระกูลชินวัตร


กำลังโหลดความคิดเห็น