เอเอฟพี – กองกำลังชาวเคิร์ด “เปชเมอร์กา” จากอิรักได้ข้ามพรมแดนฝั่งตุรกีเข้าไปยังเมืองโคบานีของซีเรียเมื่อค่ำวานนี้(31) เพื่อร่วมปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่กำลังรุกโจมตีเมืองอย่างหนัก
ศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีฐานในอังกฤษ ยืนยันว่า กองกำลังชาวเคิร์ดได้ข้ามพรมแดนเข้าไปในเขตเมืองโคบานีแล้ว
กลุ่มนักรบเปชเมอร์กาจากอิรักได้ขึ้นรถกระบะออกจากโกดังทหารของตุรกีซึ่งมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา และมุ่งหน้าไปยังพรมแดนเพื่อช่วยเสริมกำลังชาวเคิร์ดในซีเรียที่ยืนหยัดต่อสู้กับกลุ่มไอเอสเพื่อรักษาเมืองเอาไว้ ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงาน
สำนักข่าวฟิรัต (Firat) ซึ่งมีจุดยืนเอียงข้างชาวเคิร์ด รายงานว่า ขบวนยานพาหนะของกองกำลังเคิร์ดได้ขับข้ามพรมแดนตุรกี-ซีเรีย ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเริ่มต้นในเมืองซูรุคไปทางทิศใต้ราวๆ 10 กิโลเมตร โดยทหารเคิร์ดต่างโบกไม้โบกมือทักทายประชาชนและชูปืนไรเฟิล และมีตำรวจตุรกีถือโล่คอยคุ้มกันตลอด 2 ข้างทาง
รามี อับเดล ราห์มาน ผู้อำนวยการศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรีย ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า ทหารเปชเมอร์กา 150 นายซึ่งเดินทางมาจากตอนเหนือของอิรักได้ผ่านเข้าตุรกีโดยทางบกและทางเครื่องบิน แต่ทั้ง 2 กลุ่มได้มารวมกันและเดินทางต่อไปยังเมืองโคบานีพร้อมๆ กัน
ด้านนายกรัฐมนตรี รีเซป ตอยยิบ เออร์โดแกน แห่งตุรกี ออกมาวิจารณ์ผู้นำชาติตะวันตกว่าหมกมุ่นกับการสู้รบที่เมืองโคบานีมากจนเกินไป โดยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังเข้าพบประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศสที่กรุงปารีสว่า “ทำไมกองกำลังพันธมิตรตะวันตกถึงเอาแต่ทิ้งระเบิดใส่โคบานีครั้งแล้วครั้งเล่า”
“ผมกำลังพูดถึงโคบานีซึ่งตั้งอยู่ติดพรมแดนตุรกี และเวลานี้ไม่มีใครกล้าอาศัยอยู่แล้ว นอกจากกลุ่มนักรบประมาณ 2,000 คน ที่กำลังทำสงคราม”
การที่รัฐบาลอังการายินยอมให้ทหารเปชเมอร์กาจากอิรักใช้ตุรกีเป็นเส้นทางผ่านไปสู่เมืองโคบานีได้สร้างความเดือดแค้นต่อกรุงดามัสกัส ซึ่งชี้ว่าการทำเช่นนี้เท่ากับ “ละเมิดอธิปไตยของซีเรียอย่างชัดเจน”